การตระหนักถึงพระคุณแม่และคุณงามความดี พระคุณแม่ เล่ม 2 หน้า 4
หน้าที่ 4 / 20

สรุปเนื้อหา

พระคุณท่านมีค่ามาก แต่หลายคนไม่ตระหนักถึงการตอบแทนครูบาอาจารย์หรือผู้มีพระคุณ โดยเฉพาะพระคุณของแม่และพ่อ บทความนี้สำรวจลักษณะและระดับของคนดี บนเส้นทางการทำดีในชีวิต ความดีถูกแบ่งเป็นสามระดับคือ ดีแบบประถม มัธยม และอุดม โดยอธิบายว่าคนดีแท้มีคุณสมบัติหลักคือ ปัญญา บริสุทธิ์ และกรุณา รวมถึงการต้องตระหนักถึงคุณของแม่ที่อาจถูกมองข้ามไปจากการคิดถึงสิ่งอื่นๆ ผู้เขียนยังได้สะท้อนความจริงที่หลายคนไม่เคยคิดถึงแม่ จึงกระตุ้นให้คนคิดถึงและตอบแทนพระคุณของแม่.

หัวข้อประเด็น

-พระคุณแม่
-การตอบแทนพระคุณ
-ความดีในมุมมองพระพุทธศาสนา
-ระดับของความดี
-การมองข้ามพระคุณ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระคุณท่านให้ได้ทุกลักษณะไป ปีทั้งปีเราคิดถึงเรื่องอื่นกันมามากแล้ว หลายคนก็พลาดไปทั้ง ๆ ที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว พิจารณาแยกแยะเรื่อง ต่าง ๆ ได้เป็นกุ้งเป็นแคว แต่ไม่ได้แบ่งเวลาคิดพิจารณาแยกแยะพระคุณ ของพ่อ พระคุณของแม่ให้ละเอียดลึกซึ้ง เป็นเหตุให้ละเลย ไม่ได้ตอบแทน พระคุณของท่านให้ถูกให้ควร ซึ่งเท่ากับเสียชาติเกิด ความดีทำไว้เท่าไหร่ ๆ ก็ไต่อันดับไม่ถึงที่สุด เป็นคนดีที่โลกต้องการไม่ได้ ในทางพระพุทธศาสนา ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนดีนั้นจะต้องมีคุณสมบัติ หลัก ๆ ทั้งในทางโลกและทางธรรมครบทั้ง ๓ ประการ คือ มีปัญญา, บริสุทธิ์, กรุณา หรือพูดอย่างภาษาชาวบ้าน ๆ ว่า ไม่แสบ ไม่โง่ ไม่แล้ง น้ำใจ แต่ในบรรดาคนดีๆ ด้วยกันนั้น ในทางพระพุทธศาสนายังแบ่งคนดี ออกเป็นอีก ๓ ระดับ คือ ดีแบบประถม ดีแบบมัธยม และดีแบบอุดม คล้าย ๆ กับการแบ่งความรู้ความสามารถของคนตามระดับการศึกษานั้น แหละ คนดีแบบประถม คือ คนที่รู้คุณแต่ไม่ตอบแทนคุณ พวกนี้มี สติปัญญาพอวินิจฉัยได้ว่าใครบ้างเป็นผู้มีพระคุณ แต่เฉยเสีย ไม่ทำตาม กติกา คือรับแต่ฝ่ายเดียว ไม่ยอมให้เพื่อเป็นการตอบแทน คนดีแบบมัธยม คือ คนที่รู้คุณแล้วก็ตอบแทนคุณด้วย แต่ไม่ ประกาศคุณงามความดีของผู้มีพระคุณให้คนอื่นรู้ เก็บไว้ในใจคนเดียว พวกนี้ดีขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง แต่ใจคอยังไม่กว้างขวาง ได้มาเท่าไร ก็คืนให้ เท่านั้น คนดีแบบอุดม คือ คนที่รู้คุณด้วย แทนคุณด้วย แล้วก็ประกาศ คุณงามความดีของผู้มีพระคุณให้โลกรู้ เพื่อให้คนอื่นได้พลอยชื่นชมและ อยากทำความดีตามท่านไปด้วย ท่านผู้มีพระคุณก็เลยได้บุญทับทวีขึ้นอีก เพราะท่านเป็นต้นแบบแห่งการทำความดี ยิ่งคนทําตามท่านมากเท่าไหร่ พระคุณแม่ 6 ท่านก็ยิ่งได้บุญเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แม้เราที่ช่วยประกาศข่าวการทำความดี ของท่านก็พลอยได้บุญไปด้วย เพราะเท่ากับเป็นผู้ขยายวงบุญ ในทางตรงกันข้าม คนไม่ดีคือ คนที่ไม่รู้จักคำว่าบุญคุณ ใครทำ อะไรให้ได้สุขสบาย แทนที่จะสำนึกว่าเป็นบุญคุณ กลับคิดว่าเป็นหน้าที่ที่ เขาจะต้องทำให้ ไม่รู้คุณใครทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เขาจึงไม่ตอบแทนคุณ และที่เลวถึงที่สุดถึงขั้นชั่วช้าสารเลว คือ นอกจากไม่รู้คุณไม่ตอบแทนคุณ แล้ว ยังเนรคุณเสียอีกด้วย มีเรื่องที่น่าอนาถใจอยู่เรื่องหนึ่ง ที่อาตมาจำเป็นต้องยกมาพูดเสีย แต่ต้น พวกเรานั่งสมาธิกันมานานแล้ว หลายคนบ่นว่า การทำให้ใจหยุดใจ นิ่งนี่ยากเหลือกเกิน มันคอยจะซัดส่ายแล่นไปถึงคนนั้นคนนี้ เรื่องนั้นเรื่อง นี้อยู่ร่ำไป อาตมาก็ให้เขาจดชื่อลงไปซิว่าคนนั้นคนนี้ที่ว่ามีใครบ้าง แล้ว ถามเขาว่าในรายชื่อเหล่านั้นมีคุณแม่ของเราอยู่ไหม เขาตอบว่า ไม่มี ดูเถอะ เขาคิดถึงใครต่อใครมากมายก่ายกอง ยกเว้นคุณแม่ของเขาคนเดียว นั่งสมาธิไม่เห็นหน้าคุณแม่ยกไว้ อาตมาไปถามนักศึกษาที่มา ปฏิบัติธรรมที่วัด ถามว่า วันหนึ่งๆ คิดถึงแม่ คิดจะตอบแทนบุญคุณแม่ กันคนละกี่ครั้ง ไม่ว่าหน้าไหน ๆ อีกอัก ๆ ตอบไม่ได้ ไม่ใช่นับครั้งไม่ถ้วนหรอกนะ แม้กระทั่งวันนี้ก็ยังไม่ได้คิดเลย ไม่ได้คิดมาสักเดือนได้ไหม ไม่ใช่ บางคน บอกปีนี้ทั้งปียังไม่ได้คิดเลย คุณแม่ของเขาตกสำรวจอีกแล้วเป็นรอบสอง ก็เลยไม่อยากถามต่อว่าใครหน้าไหนที่นั่งอยู่ในหัวใจของเขาอยู่ตลอดเวลา พวกเราทุกคน ไม่ว่าผู้เฒ่าผู้แก่ล้วนมีแม่ด้วยกันทั้งนั้น แม่ของ หลาย ๆ ท่านในที่นี้ก็ละโลกไปแล้ว ของหลาย ๆ ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ว่า ผู้เฒ่าเป็นไม้ใกล้ฝั่งกระย่องกระแย่งเต็มที่ จะอยู่จะไปจะข้ามปีนี้หรือเปล่า ก็ไม่รู้ คุณแม่ของอีกหลาย ๆ ท่านก็ยังสาว ยังแข็งแรง อยู่กับลูกกับหลาน 7 พระคุณแม่
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More