ความสำคัญของการเขียนจดหมายถึงพ่อแม่ พระคุณแม่ เล่ม 2 หน้า 17
หน้าที่ 17 / 20

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเน้นความสำคัญของการเขียนจดหมายถึงพ่อแม่ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกล ผลกระทบทางอารมณ์ที่เกิดจากการแบ่งปันความรู้สึก และความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก แม้จะไม่ได้มีการศึกษา แต่ประสบการณ์ในชีวิตของท่านมีค่ามากกว่า โดยเฉพาะคำสอนและโอวาทจากท่านเป็นสิ่งล้ำค่าที่ควรเก็บรักษาอย่างดี การเข้าใจและเห็นอกเห็นใจในความรู้สึกของพ่อแม่ซึ่งคอยเป็นห่วงลูกผ่านเรื่องราวประสบการณ์ส่วนตัว

หัวข้อประเด็น

- ความสำคัญของการสื่อสารกับครอบครัว
- ประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน
- คุณค่าและความรักของพ่อแม่
- การสอนไม่มีวันสิ้นสุดจากผู้ปกครอง

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ไปถึงไหนแล้วไม่เคยเขียนจดหมายมาเล่าให้ฟังเลยว่าสาระทุกข์สุขดิบเป็น อย่างไร ก็ได้แต่ชะเง้อคอย เมื่อไหร่ลูกศิษย์เราจะกลับมา แบบเดียวกันเลย ไม่ไปไหน น่า นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่อยากฝากกับพวกเราทุก ๆ คน ช่วยเขียน จดหมายไปถึงคุณพ่อคุณแม่บ้างนะ ใครที่อยู่ต่างจังหวัดแล้วเข้ามาทำงาน ก็ดี เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯก็ดี ช่วยเขียนจดหมายส่งไปให้ท่านด้วย แต่ ไม่ใช่ “พ่อครับ แม่ครับ คิดถึงมาก ตอนนี้เงินหมดแล้ว... คำพูดไม่กี่คำของ ทานนั่นแหละจะมีค่า ยิ่งกว่าทองคำกอง ถ้ามีเวลาว่าง ช่วยจดหมาย ไปถึงท่านเถอะ แล้วเวลาท่านตอบมา เราจะได้โอวาทดีๆ จากท่าน เป็นโอวาท ชนิดที่ควักออกมาจากใจ ซึ่งแม้ว่า คุณแม่คุณพ่อของเราท่านจะมีความรู้ มีการศึกษาน้อย แต่ว่าประสบการณ์ใน ทางโลกของท่านมาก แม้ความรู้จะ น้อย แต่ว่าท่านจะมีเหตุผล มีค่าสรุป ในการลุยโลกลุยชีวิตของท่านเอามาให้เป็นข้อคิดแก่เราได้เป็นอย่างดี แล้ว สูงท่วมหัวเสียอีก คำพูดไม่กี่คำของท่านนั่นแหละ จะมีค่ายิ่งกว่าทองคำกองสูงท่วมหัวเสียอีก ลูกยังไม่กลับ หลับตาไม่ลง ประสบการณ์อีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองก็คือ พอกลับมาถึงเมือง ไทย ก็ติดนิสัยตอนอยู่ต่างประเทศกลับมาด้วย คือเมื่อตอนใกล้ ๆ จะจบ เหลือแต่งานวิทยานิพนธ์ คิดว่าอย่างไรก็จบแน่ ๆ ก็เลยเที่ยวเตรเฮฮากัน พระคุณแม่ 32 พอสมควรเชียว พอกลับมาถึงเมืองไทยก็กลายเป็นพวกนกฮูกหัวนอน ไม่ค่อยได้ ต้องนอนดึก ๆ ก็เที่ยวไปตามบ้านพรรคพวกเพื่อนฝูง เที่ยว เตรเฮฮากันไป กลับมาถึงบ้านก็โน่น ตีหนึ่ง ตีสอง มีอยู่วันหนึ่ง กลับมา ถึงบ้านประมาณสักตีหนึ่งครึ่ง โยมพ่อโยมแม่ยังไม่นอน ก็เลยถามท่าน “เอา ทําอะไรกันจนดึกเชียวไม่นอน” โยมพ่อไม่พูดอะไร มองหน้าแล้วท่านก็เข้านอน แต่โยมแม่พูด “ก็ นั่งรอเรานะ ไปทำอะไรมาน ตั้งตีหนึ่งจะตีสองแล้วเพิ่งจะกลับ” ก็บอกไป เที่ยวบ้านเพื่อนมา “รู้ไหมว่าพ่อเขาห่วงจะแย่อยู่แล้ว แม่ก็ห่วงเอ็งนะ นั่งรออยู่นี่” ก็ตอบโยมแม่ไปแบบรำคาญ ๆ “อุ้ยมาห่วงอะไรกันหนักหนา ข้าม น้ำข้ามทะเลไปเป็นปี ๆ ยังไม่ต้องห่วง แล้วนี่เมืองไทยยังต้องมาห่วงกัน” ท่านก็ถอนใจเสียงดังเฮือก แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก ก้มหน้างุดเข้านอน ท่าน คงน้อยใจ ท่านรักลูกของท่าน ท่านห่วงลูกของท่าน แต่พอถึงเวลาแล้ว ลูกกลับไม่ได้นึกหรอกว่า ท่านห่วงหรือไม่ห่วงอย่างไร กลับไปตำหนิทาน เสียอีก มานึกได้ตอนหลังว่า เรานี้ช่างไม่เข้าท่าเลยนะ ทำให้ท่านห่วงแล้ว ยังมาว่าท่านอีก พวกเราช่วยเอาเรื่องเหล่านี้ ท่านหวงลูกของทาน ไปเป็นกระจกส่องตัวเองกันด้วยนะ เพราะอาตมาเมื่อตอนวัยรุ่น เมื่อ จบการศีกษาใหม่ ๆ ไม่ค่อยได้สังเกต เท่าที่ควรจะเป็น แล้วก็ไม่ค่อยนึก อะไรมาก ผู้เฒ่าจะคิดยังไงกับเราก็ ช่างท่านปะไร ยังไง ๆ ท่านก็รักเรา ให้อภัยเราหมดแหละ เพราะฉะนั้น เราจึงทำอะไรตามอำเภอใจหมด แต่พอถึงเวลาแล้ว ลูกกลับไม่ได้นึก หรอกวา ทานหวง หรือไม่ห่วงอย่างไร กลับไปตำหนิทาน 33 พระคุณแม่
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More