การดูแลสุขภาพและอาหารของผู้สูงอายุ พระคุณแม่ เล่ม 3 หน้า 10
หน้าที่ 10 / 24

สรุปเนื้อหา

ในบทความนี้ พูดถึงปัญหาของผู้สูงอายุที่มักจะไม่ยอมรับประทานอาหารที่มีราคาแพงจนส่งผลต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโรคขาดอาหาร การมีนิสัยตระหนี่อาจเกิดจากประสบการณ์ในวัยหนุ่มสาวที่ไม่ได้ทำบุญทำทาน เมื่อเวลาผ่านไปทำให้เกิดเส้นทางที่ยากลำบากในการดูแลและให้สารอาหารที่เหมาะสมแก่พวกเขา ผู้ดูแลจำเป็นต้องเข้าใจอาการเหล่านี้และหาทางช่วยเหลือ เช่น การพาไปทำบุญ หรือเลือกอาหารที่ถูกปากและมีคุณค่าทางโภชนาการ มาพร้อมกับการจัดเตรียมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นให้แก่ผู้สูงอายุอย่างเข้าใจและถูกวิธี.

หัวข้อประเด็น

-การดูแลผู้สูงอายุ
-ปัญหาอาหารขาดสารอาหาร
-นิสัยการใช้จ่ายของผู้สูงอายุ
-การทำบุญและการให้ทาน
-การเลือกอาหารที่เหมาะสม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ไม่ยอมกินของแพง จนเป็นโรคขาดอาหาร อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะฝาก บางท่านอาจจะเจอ คือแม่ของพวกเรา ถ้าแต่เดิมท่านมาจากฐานะที่ยากจน แล้วท่านไม่ค่อยได้ทำบุญทำทานมา พอท่านแก่แล้วท่านจะมีอาการอย่างนี้ หนึ่ง ข้าวของเสื้อผ้าใหม่ ๆ ท่านไม่ค่อยใช้หรอก เสียดาย ท่านใช้ จนเก่าแล้วเก่าอีก กระทั่งแทบเป็นผ้าขี้ริ้วก็ไม่อยากจะทิ้ง สอง กับข้าวกับปลา รวมทั้งหยูกยาอะไรก็ตามที่ให้ดีให้วิเศษยังไง ถ้ารู้ว่าราคาแพงท่านไม่กินหรอก ท่านเสียดาย ท่านขี้เหนียวอาหารอร่อยๆ กินถูกปาก แต่ถ้าบอกว่าราคาเท่านั้นเท่านี้ ราคาแพง ๆ ท่านวางช้อนเลย ไม่กินหรอก ในกรณีอย่างนี้ก็ต้องให้รู้จัก อัธยาศัยท่านด้วย บางครั้งก็ต้องไม่บอก กัน แต่อย่าไปโกหกนะ จะเลี้ยงยังไงก็ เลี่ยงไปเถอะ ไปโกหกท่านก็บาปปากอีก โกหกกระทั่งแม่ตัวเองก็กระไรอยู่ ไม่เอา! คนอื่นเรายังไม่โกหกเลย ไปโกหกแม่ก็ หมดท่าอีกเหมือนกัน ในกรณีอย่างนี้ดี ที่สุดคือพยายามให้ท่านทำบุญทำทาน แล้วนิสัยตระหนี่เหนียวแน่นจะได้หมด พยายามให้ทาน ทำบุญทำทาน แล้วนิสัยตระหนี่ เหนียวแน่นจะได้ หมดไป ไปตักข้าวตกปลาเอาไว้ เช้าขึ้นมาให้ท่านตักบาตรให้ทาน เมื่อตักบาตรให้ ทานจนคุ้นเคยหนักเข้าๆ ไม่นานข้าวปลาอาหารที่อร่อยจะแพงสักหน่อย ท่านก็ยอมกิน ถ้าไม่อย่างนั้น เท่าไหร่ ๆ ก็ไม่กิน นี่ก็เป็นข้อบกพร่องของ คุณแม่คุณพ่อที่เมื่ออยู่ในวัยหนุ่มวัยสาวไม่ได้ให้ทานเอาไว้ พอบั้นปลาย พระคุณแม่ 56 ถ้าพูดกันท่านไม่ ยอม ก็มีทางเดียว คือ เราต้องหมั่น ชีวิตก็จะมีอาการอย่างนี้ อีกอย่างก็เรื่องอาหารการกิน ของท่านผู้เฒ่าอีกนั่นแหละ ผู้เฒ่าบาง ท่านไม่ใช่คนขี้เหนียวนะ ทำบุญทำทาน อะไรก็ทํา แต่ว่าท่านชอบกินอาหาร ประเภทที่ถูกปากท่าน มีคุณค่าทาง ไปกินข้าวกับท่าน อาหารหรือไม่ท่านไม่คำนึง ชอบผัก ดองชอบนํ้าพริกของท่านไป แล้วพอ บั้นปลายชีวิต ถ้าท่านมีนิสัยในการกินอย่างนี้ โดยลูกๆ ไม่หาทางแก้ไข โรคขาดอาหารจะถามหา จะเป็นโรคขาดอาหารได้ง่าย วิธีแก่ในกรณีอย่าง นี้ ถ้าพูดกันท่านไม่ยอม ก็มีทางเดียวคือ เราต้องหมั่นไปกินข้าวกับท่าน แล้วดูแลคอยหยิบคอยตักให้ เลือกกับข้าวที่เข้าท่าเข้าทาง ทั้งถูกปาก ทั้งมีคุณค่าทางอาหารให้ท่าน ถ้าอย่างนี้พอรอดตัว แล้วพวกอาหารเสริม ต่าง ๆ ไวตามินต่าง ๆ ดูจัดเตรียมไปให้ท่านให้ดี แต่นั่นแหละนะ อาตมาเคยเจอมาแล้ว ไปให้โยมแม่โยมพ่อ นั่นแหละกินไวตามินบ้าง เกลือแร่บ้าง โน่น ๆ นี่ๆ พอท่านกินไปได้สัก ระยะหนึ่งท่านว่ายังไงรู้ไหม? ท่านว่า อูย....วัน ๆ หนึ่งกินยามากกว่ากินข้าวอีก เป็นกำ ๆ เลย จะตายก็ปล่อยให้มันตายไปเถอะ อย่ามายุ่งกับโยมเลย เอา ว่าไปอย่างนั้นอีก ก็ต้องปะเหลาะท่านไปนั่นแหละ ชวนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ แล้วเดี๋ยวก็ส่งยาให้เม็ดสองเม็ด พอเผลอ ๆ นี่อีกหน่อย นั่นก็เกลือแร่ ละลายน้ำไป นี่ไวตามิน ก็ไม่รู้แหละ ชวนคุย พอท่านอารมณ์ดีก็ส่งยา อารมณ์ดีส่งยา ถ้าอย่างนี้พอได้ ถ้าเป็นชนิดให้คนใช้เอายาไปให้หรือเอายา ไปให้ท่านตอนอารมณ์ไม่ดีละก็ไม่ได้กินหรอก บางทีเราเอาไปให้ท่านไม่กิน ต้องให้หลานคนโปรดเอาไปให้จึงยอมกิน ก็ยักย้ายถ่ายเทเอาให้ดีก็แล้วกัน สําหรับอาหารที่ท่านชอบ ก็แบ่งเป็นตั้งหลายชนิด ไม่เหมือนกัน 57 พระคุณแม
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More