ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทาน – บุญ
นาย ก. ซึ่งคุ้นกับการอนุโมทนาบุญ ใครๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นคน
มีนิสัยอย่างไร พอไปทำผิดเข้า แกรีบมายก มือไหว้เลย “ขอโทษ
เถอะไม่รู้จริงๆ”
เจ้าของที่เขาก็บอกไม่เป็นไร ทีหลังระวังหน่อย อย่าทำอีก
ก็จบเรื่อง กันไปสำหรับนาย ก.
ส่วนนาย ค. เมื่อทำผิดก็ไปขอโทษ “แหม...ผมไม่รู้จริงๆ ถึงได้
ไปทำผิดเข้า”
เจ้าของที่หันมาจ้องตา “ไม่รู้หรือแกล้ง?” เสียงชักจะเอาเรื่อง
เหมือนกัน แต่เรื่องก็จบแค่นั้น
พอถึงคราวนาย ข. นักอนุโมทนาบาป พอรู้ตัวว่าผิด ก็ไป
ขอโทษ “ผมไม่รู้จริงๆ เลย ลูกพี่” พูดไม่ทันขาดคำ
เขาตวาดใส่ทันที “หนอยแน่ะ ไอ้ตัวดี” ตวาด ไม่ตวาดเปล่า
แถมกำปั้นยันเปรี้ยงเข้าให้ เพราะความที่นาย ข. อนุโมทนาบาปไว้มาก
ผลมันจึงออกมาในรูปนี้ นี่เป็นส่วนหยาบๆ ที่เห็นเป็นรูปธรรม
ถ้าเป็นส่วนละเอียด กล่าวถึงสภาพของใจ ก็อธิบายว่า ถ้าใจ
ของเราแต่เดิมใสเหมือนพลาสติก ทันทีที่อนุโทนาบุญ ใจจะใสขึ้น
ใสเหมือนกระจกเลย ถ้าเดิมใจใสเหมือนกระจก พออนุโมทนาบุญ
เสร็จ ใจจะยิ่งใสขึ้น ใสเป็นเพชรเลยทีเดียว
ตรงกันข้าม ถ้าอนุโมทนาบาป จากเดิมที่ใจใสเหมือนพลาสติก
พอไปอนุโมทนาบาปเข้า “เออ....ดี สมน้ำหน้ามัน” คิดเสร็จ ใจก็อุ่น
หมองคล้ำลงไปทันทีเลย จากเดิมเป็นพลาสติก ก็กลายเป็นพลาสติกเก่าๆ
ที่อยู่ในกองขยะ นึกออกไหม ถ้าเดิมใจใสเป็นเพชร พออนุโมทนา
บาปปั๊บ ใจก็ขุ่นหมอง คร่ำคร่าเหมือนกับพลาสติกที่เขาโละทิ้ง
พระภาวนาวิริยคุณ 32 (เผด็จ ทัตตชีโว)