ความรู้แจ้งและบารมีในการบรรลุเป็นพระพุทธเจ้า : หน้า 20/39

ทิกุนพล กกก พุทโธวาท มูลนิธิอิทธิมงคลมหาราช โรงพิมพ์เทคนิคพนัส พ.ศ.2509 หน้า 12 6. ต้องสมบูรณ์ด้วยบุญ คืออย่างน้อยต้องได้ญาณ 5 สมาบัติ 8 อภิญญา คือ ความรู้แจ้ง มี อย่างคือ 1)อภิทิวิธี - แสดงดูทีละๆได้ 2)ทิพพิโต - ชูทิพย์ 3)ทิพพจัญญู - ตาทิพย์ 4)บุพเพวิญญาณสุข - ระลึกชาติได้ 5)ฌานโธปัญญา - ทายใจคนอื่นได้ 6) อาสวักญาณ - ญาณที่ทำให้สะกิดสะกัดสนิทไป หากอย่างแรกเป็นโภคิยภูมิ ญาณนักบวชศจาสามารถสำเร็จได้แค่อภิญญา 5 จึงยังไม่หมดอภิญญา พระองค์นี้ต้องได้อภิญญา คบทั้ง 6 จึงสามารถทำได้สำเร็จโดยสมบูรณ์ 7. ต้องมีบารมีจาคอย่างยิ่ง คือ ต้องให้นายอย่างยอดเยี่ยม และให้พรยๆ ที่เดียว ต้องขนานะสละชีวิตเป็นทุก อย่างสมดานสันติเท่านาทนายวายชีวิตไปเลยนะพระอรบุตร 4 แสนรูป ซึ่งมี 8 แสนเท่า นินทัศกิยบูชา งถึงตัวเองจะมะพรานอัครพาน ให้นึกคิดลุกในเมืองหน้า 8. ต้องมีความตั้งใจที่จะไปเป็นพระสมมาสัมพุทธเจ้าหน้า คือ ถ้าไม่มีความปรารถนาที่จะช่วยสัตว์โลกต่อไปองค์หน้า พระพุทธเจ้าทรงมาพบเห็นแต่พระองค์เองว่ามีคุณสมบัติถึง 7 ประการข้างต้นแล้วก็ไม่พยายามที่จะอยู่ดี การที่คนทั่วโลกเคารพบพระสมมาสัมพุทธเจ้ากว่าพระองค์ตลอดหลาย กิตตอนนี้ เพราะว่าเท่านจะเลือกเป็นพระอรบุตรเช่นนั้นพวกแต่ว่าตัวนี้นั้น ท่านก็สามารถทำได้นำมันเป็นต้องลำบากต่อไปอีกเลย แต่นั่นจะอยู่ตามคำสอนฐานให้ไว เมื่อครึ่งง่ายๆนาๆเป็นต้องลำบาก เพราะฉะนั้น ต่อแต่เนตลอด 4 ลงไปยืนก็บนแสนกันที่จะทำความเพียร ยอมไม่ใช่เพื่อเอง มีพระโพธิสัตว์ (ผู้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้ามีบ้างน้อยเป็ของพระองค์ ที่ตั้งใจจะเป็นพระสมมาสัมพุทธเจ้าในองค์หน้า แต่เมื่อสร้างบารมีได้จะมีเปลี่ยนใจ ขอเป็นพระอรบุตรธรรมดา แต่สุดยอดโพธิสัตว์ไม่เปนอย่างนั้น ท่านนี้เท้ตเดียว มั่นคง