การทานบารมีและพุทธกายธรรม : หน้า 22/39

ทานบารมีที่พระสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้แล้วตรองดูอยู ส่วนหลวงพ่อทอจึง ในวันนี้เป็นเพียงเล็กน้อย ช่วยแนะนำสอนให้พวกท่านเข้ามาสู่เส้นทางแล้วมุ่งสิ่งใช้สมาธิ ของพระองค์ ในฐานะเป็นสาวก เป็นลูกศิษย์ สุเมธบา สอดอคติข้อความและสมบัติที่ได้เป็นบารมี ทำไมท่านเห็นเป็นภาพชัดเจน ยิ่งว่าดูโทรทัศน์ว่า ต่อแต่นี้ไปคงบอกเลยท่านจะถึงได้ท่านอยากต่อเนื่อง เต็มที่เลย ไม่อาจฉันพวกต่อใบหน้าขอ ตะน้าจะเตรียมเสียงไว้ใสำหรับท่านเองนะ มีพอแล้ว ดุนใจจะ จะอยู่ให้ท่านเต็มที่สุดอีก 4 องค์ใบถวายแลกันนี้สำหรับ ท่านได้พูดว่า ทานบารมี เป็นความดีพิเศษยิ่งอ่อนท่านเป็นลูกพระโพธิ์ตัวองค์ๆ ได้ให้เพื่อนลูกนาม เรียกวาเป็นพุทธกายธรรม คือธรรม ที่จะทำให้เป็นพระพุทธฯ แลท่าน ก็ให้เวลาตนเองด้วย “ตั้งแต่ตอนยังเป็นเพชฌฆาตนาม อันเป็นพุทธกายธรรมย่อมนี้ เห็นชื่อเท่ากับว่า ยอมคาย่านในมนะถือ ถือไม่กำลังบากบั่นกันอภัยแม่ใส เสมอเคี่ยมเป็นเหมือนงอขึ้น เธอก็จะคง ไม่บีบในทรัพย์เมตต์ ยุด คุณแม่ หรืออังคาพาพไว้ในรัษณะเก่าๆตามความ ปรารถนาไม่แช่อ ถ้าเอาบารมีนที่จะบรรจุพระโพธิ์ญาณ ลงสมาทานไว้ในวัน ด้านในง คงไม่พอ จะตรัสเป็นพระสัมพุทธเจ้าใน 4 องค์ใบถวายแลกันนี้เพื่อ ท่านวางแผนให้ท่านอย่างรอบคาม คำทานนั่นเป็นชาวบ้านทั่วไปเรามายแต่ แบ่งปันให้ หรือแบ่งปันกันกินเป็นไต๋ของพวกจะไปเป็นพระพุทธเจ้า จะชื่นชื่อตัวโลก เป็นทานชนิดยอดคัด จะไม่เหลือ ให้หมด ตัว มียกนั่นให้ท่านชนิดไม่ออนเปรียบเทียบเสียดายภายหลัง พวกเราคายไหม ให้ทานไปแล้วเสียดายในภายหลัง เคย เรามันประเภทรํ่าแซ่ซ้องเดี่ยวๆ เดียวยกเดียวทะะ หยุดย้ายออก กระทบอะไรขาหน่อยหยุด นอกจากแกนปันให้ แล้วจึงมี เสียดายอีกด้วย มันจึงต้องฉันตอนอย่างนี้ 2. ศาสนามี อันดับที่สองพบว่า จะต้องนำพุทธคุณมารวม วิเคราะห์รักษาศาสนีย์อยูต่อเป็นต้นแบบ แก่นักทั้งโลกด้วย ไม่ใช่ศิลธรรมดา สุเมธบากก็ให้เจาตนเองว่า