ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปกิณกธรรม
เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ. ๙
อุบาสิกาแก้ว
ทหารหญิงจักรพรรดิ
อยู่ให
...สตรีเหล่าใด ส่งใจถึงพระพุทธเจ้าเป็นประจำทั้งกลางวันและกลางคืน สตรีเหล่านั้น
ได้ชื่อว่าเป็นผู้ตื่นอยู่เสมอ เป็นอุบาสิกาสาวิกาของพระพุทธเจ้า....
๑
ใน
อุบาสิกา ฐานะอันสูงส่งฝ่ายหญิงในพระศาสนา
เสาหลักที่พุทธบริษัทขาดมิได้ เฉกเช่น
มหาอุบาสิกาวิสาขา...ผู้เป็นกองเสบียงใหญ่ให้กับ
พระศาสนา หรือแม้วิชชาอันลึกซึ้งของพระสัมมา
สัมพุทธเจ้านั้น สตรีเพศธรรมดาผู้อยู่ครองเรือนก็
สามารถแทงตลอดได้เหมือนกัน
ในสมัยพุทธกาล มีอุบาสิกา ชื่อ มาติกมารดา
(มา-ติ-กะ-มาน-ดา) อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านริมเชิงเขา
ลูกหนึ่งในแคว้นสาวัตถี นางเป็นแม่ของผู้ใหญ่บ้าน
ในหมู่บ้านแห่งนี้ ในช่วงเข้าพรรษา นางเห็นคณะสงฆ์
๖๐ รูป เดินธุดงค์ผ่านมาที่หมู่บ้าน จึงคิดอย่างผู้มี
ดวงปัญญาว่า เนื้อนาบุญมาโปรดเราถึงที่แล้ว เป็น
โอกาสดีที่จะได้สั่งสมบุญอย่างเต็มที่ จึงก้มกราบ
ปวารณาว่า “พระคุณเจ้าได้โปรดอยู่จำพรรษาที่
หมู่บ้านแห่งนี้เถิด พวกโยมจะคอยถวายอาหารเป็น
ประจำ” เมื่อคณะสงฆ์รับอาราธนา นางจึงบอกให้คน
ในหมู่บ้านช่วยกันทำความสะอาดสถานที่แห่งหนึ่ง
ใกล้หมู่บ้านเพื่อให้พระภิกษุใช้บำเพ็ญสมณธรรมกัน
อีกทั้งอุปัฏฐากดูแลเป็นอย่างดี ดุจเป็นโยมมารดาของ
พระก็ว่าได้
ภิกษุเหล่านั้นต่างก็ไม่ประมาทในการบำเพ็ญ
สมณธรรม ได้สร้างกติกาในการอยู่ร่วมกันว่า “เพื่อ
ให้ไม่เกิดการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ พวกเราควรแยก
กันอยู่ แต่ว่าจะมาพบกันในเวลาบิณฑบาตยามเช้า
และอุปัฏฐากพระเถระยามเย็น นอกนั้นก็ให้ต่างคน
ต่างอยู่ งดการพูดคุยสนทนาต่าง ๆ แต่ถ้ารูปใดเจ็บ
ไข้ได้ป่วย ก็ให้มาตีระฆังบอกให้ทราบทั่วกัน เพื่อ
ช่วยกันปรุงยาถวายรูปนั้น
วันหนึ่งอุบาสิกาพร้อมลูกบ้านได้นำน้ำปานะ
มาถวายพระ แต่ไม่พบพระรูปใดเลย คนที่ทรา
กติกาสงฆ์ก็ได้บอกนางว่า “ไปตีระฆังสิ เดี๋ยวพระ
ท่านก็จะมารวมตัวกันเอง” นางก็ใช้ให้คนไปตีระฆัง
ภิกษุสงฆ์เมื่อได้ยินเสียงระฆังจึงออกมาจากที่พัก
อุบาสิกานึกว่าพระทะเลาะกัน เพราะแต่ละรูปไม่มี
ใครมาทางเดียวกันเลย จึงถามสาเหตุนั้น พระท่าน
ตอบออกไปว่า “โยมแม่ พวกอาตมาแยกกันบำเพ็ญ
สมณธรรม” “สมณธรรมนั้นเป็นอย่างไร” “สมณธรรม
ก็คือ การทำสมาธิ พิจารณาอาการ ๓๒ ในร่างกายนี้
ว่าเป็นของไม่เที่ยง พิจารณาให้เห็นความเสื่อมและ
ความสิ้นไป” นางถามต่อไปว่า “แล้วโยมสามารถ