ข้อความต้นฉบับในหน้า
ผู้เบียดเบียนสัตว์อื่น
ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย
เอตัง พุทธานะ สาสะนัง
นี้เป็นค่าสอนของพระ
พุทธเจ้าทั้งหลาย
การจะปฏิบัติให้ถึงพระ
รัตนตรัยภายใน จนกระทั่ง
บรรลุพระนิพพานนั้น จะต้องมี
ความอดทนหลายประการ เช่น
อดทนต่อการกระทบกระทั่ง
อดทนต่อกิเลส มายั่วยวน
ตลอดจนอดทนต่อการฝึกฝนอบรมใจให้หยุดนิ่ง
ส่วนจะต้องอาศัยขันติธรรม อันเป็นเครื่องแผด
เผากิเลสให้เร่าร้อน เมื่อกิเลสเร่าร้อนก็หลุดร่อน
ไปจากใจ นี้คือคุณธรรมเบื้องต้นที่เราจะต้องมี
ความอดทนไม่หวั่นไหวต่อสิ่งทั้งหลาย
ทั้งปวงนั้น ก็เพื่อมุ่งไปสู่พระนิพพาน ซึ่งพระพุทธ
เจ้าทุกพระองค์ทรงสรรเสริญว่า พระนิพพาน
เป็นเยี่ยม เพราะพระองค์ทรงผ่านประสบการณ์
ชีวิตมาแล้วทุกระดับ ตั้งแต่ชีวิตที่เป็นปุถุชนจน
กระทั่งเป็นพระอริยเจ้า พระองค์ทรงมองเห็น
ด้วยธรรมจักของธรรมกายของอรหัตตสัมมา
สัมพุทธเจ้าว่า พระนิพพานเป็นเยี่ยมที่สุด และ
เป็นเป้าหมายของทุกชีวิต ซึ่งการที่จะบรรลุ
พระนิพพานได้นั้น จะต้องเข้าถึงพุทธรัตนะ
ธรรมรัตนะ และสังฆะรัตนะ ด้วยการทําใจให้
หยุดนิ่งอย่างเดียวเท่านั้นเว้นจากการทำใจหยุดนิ่ง
แล้ว อย่างอื่นย่อมเข้าถึงไม่ได้เด็ดขาด
พระพุทธองค์ยังทรงย้ำอีกว่า การที่จะไป
เผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนนั้นอย่าได้ไปทำร้ายใคร
หรือไปเบียดเบียนบังคับใคร เพื่อให้เขามาเชื่อ
หรือมาตามอย่างเราให้เขาใช้สติปัญญาครองตาม
เหตุผล ให้เข้าใจไปตามความเป็นจริง แล้วก็
ตัดสินใจเชื่อด้วยตัวเอง ซึ่งบรรพชิตหรือ
นักสร้างบารมีที่ดีควรจะทำอย่างนี้ จะต้อง
ประกอบไปด้วยเมตตาธรรม เป็นผู้เสียสละ ให้
อภัยต่อเพื่อนมนุษย์ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่
กล่าวมานี้คือคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกๆ พระองค์ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต
ซึ่งทุกพระองค์ทรงสอนตรงกันหมด
นอกจากนี้ พระพุทธองค์ทรงให้หลักการ
ในการไปทำหน้าที่ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร เพื่อ
แนะนำชาวโลกว่า
สัพพะป่าปัสสะ ฮะกะระณัง
การไม่ทำบาปทั้งปวง
กุสะลัสสปะสัมปะทา
การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม
สะจิตตะปะริโยทะปะนัง
การท่าจิตของตนให้ผ่องแผ้ว
เอตัง พุทธานะ สาสะนัง
นี้เป็นค่าสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
หลักการนี้ เป็นหลักที่สำคัญ เพื่อให้พุทธ
บุตรและพุทธบริษัททั้ง ๔ นำไปใช้ในการแนะนำ
๓๖
สั่งสอนชาวโลก โดยยึดหลัก ๓ ประการ คือ ให้ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้เป็นหลักปฏิบัติ
เว้นจากความทุจริต ทางกาย ทางวาจา และก็ ของชาวโลกตั้งแต่อดีตกาลเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้
ทางใจ ให้ประกอบแต่สุจริตธรรม ทั้งทางกาย
ทางวาจา และทางใจ แล้วก็ต้องหมั่นทำาใจของตน
ให้ผ่องใสอยู่เสมอ สรุปง่ายๆ คือ ต้องคอยเป็น
กัลยาณมิตรให้แก่กัน แล้วก็หักดิบเลิกทำความ
ชั่วทุกอย่าง ตั้งใจทำแต่ความดี บำเพ็ญกุศลธรรม
ทั้งทาน ศีล ภาวนา การประพฤติอ่อนน้อม การ
ชวนขวายในกิจที่ชอบ การอุทิศส่วนกุศล การ
อนุโมทนาบุญ การฟังธรรม การให้ธรรมทาน
และการทําความเห็นให้ถูกต้องมุ่งตรงสู่พระ
นิพพาน อีกทั้งต้องหมั่นทำใจให้ใสๆ ด้วยการเจริญ
สมาธิภาวนาทุกวัน นอกจากนี้พระพุทธองค์ทรง
บอกวิธีการประพฤติปฏิบัติตนเพื่อความหลุดพ้น
และเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์อีกว่า
อะนูปะวาโท การไม่เข้าไปว่าร้ายกัน
อะนุปะมาโต การไม่เข้าไปล้างผลาญกัน
ปาติโมกเข จะ สังวะโร
การสำรวมในศีลและพระปาฏิโมกข์
มิตตัญญุตา จะ ภัค สมิง
การรู้จักประมาณในการบริโภค
ปันตัญจะ สะยะนาถะนัง
การนอนการนั่งในสถานที่อันสงัด
อะ จิตเต จะ อาโยโค
การประกอบความเพียรในอธิจิต
เอตัง พุทธานะ สามะนัง
นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
พุทธโอวาทบทนี้ มุ่งเพื่อให้ผู้ปฏิบัติสามารถ
พ้นจากความเป็นปุถุชน เข้าถึงความเป็นพระ
อริยเจ้าได้จนกระทั่งได้บรรลุพระนิพพานอันเกษม
โอวาทปาฏิโมกข์ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้
คือ เนติแบบแผนในการเผยแผ่พระธรรมคำสอน
ไม่ว่าจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้มากมาย
เพียงไร แต่การเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอน ก็ยัง
คงยึดหลักการเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นหลักวิชชาที่จะ
ทำให้มนุษย์ได้บรรลุธรรมได้เข้าถึงความเต็มเปี่ยม
บริบูรณ์ของชีวิต
ดังนั้น ในวันนี้เราจึงพร้อมใจกันมา
ประพฤติปฏิบัติธรรมตามพระพุทธโอวาท คือ
โอวาทปาฏิโมกข์ เพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน
ซึ่งเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก ที่แท้จริงของเรา และชาวโลก
ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลาย ถ้าเราได้เข้าถึงพระ
รัตนตรัย เราก็จะได้ชื่อว่า เป็นชาวพุทธที่แท้จริง
เป็นพุทธบุตร พุทธสาวก พุทธสาวิกาที่สมบูรณ์
เป็นผู้ที่จะทําให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง
เป็นหลักชัยของชาวโลกต่อไป
การปฏิบัติธรรมที่เรากำลังทำอยู่นี้ เรียกว่า
ปฏิบัติบูชา เป็นการบูชาอันสูงสุด แด่พระสัมมา
สัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย ผู้ทรง
พระคุณอันประเสริฐ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้เป็น
ทางมาแห่งมหากุศลอันยิ่งใหญ่ของเรา ดังนั้นเรา
ต้องตั้งใจปฏิบัติกันให้ดีเป็นพิเศษ ถ้าเรา
ปรารถนาจะได้บุญมากๆ อยากให้ชีวิตของเรา
สมบูรณ์ ก็ต้องปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรม
กายให้ได้ เพราะบุญกุศลและความบริสุทธิ์
ความดีงามทุกอย่าง ก็รวมประชุมอยู่ในพระ
ธรรมกาย ซึ่งมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกๆ คนในโลก
ไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ ถ้าทุกคน
ทั่วโลกได้เข้าถึงพระธรรมกาย โลกก็จะพบ
สันติสุขที่แท้จริง เพราะฉะนั้นการปฏิบัติตาม
หลักโอวาทปาฏิโมกข์ จึงเป็นพุทธวิธีที่จะสร้าง
สันติสุขที่แท้จริง ให้บังเกิดขึ้นแก่โลก