ข้อความต้นฉบับในหน้า
อันนี้ ประเด็นเรื่องของความเชื่อยมโยงกันของบทสวดคาถารวมกายที่พี่วัดครึ่งมงคล (วัดโถง) นั้น มีเนื้อหาหรือสาระสำคัญทอดคล้องกันเนื้อหาที่ปรากฏในคัมภีร์พระจุฬามณี ที่ถูกเก็บรักษาไว้ทั่วพระเกตุพูนิมมังคลาราม (วัดโพธิ์) ที่ได้เกลินไว้ในฉบับนี้แล้วนั้น เป็นสิ่งที่ผู้เรียนนักและคณะนักวิจัยของสถาบันวิทยานิรนาถธรรมมั่งสนใจคำวิจารณ์อย่างยิ่ง ทั้งนี้เป็นที่น่าสนใจว่า ความสอดคล้องกันดังกล่าวนี้ได้เป็นเพียงในด้านของ “สาระสำคัญ” หรือเนื้อหาของเอกสารทั้งสองเท่านั้น หากแต่ยังเป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
ทั้ง “คัมภีร์พระจุฬามณี” และบทสวดในคาถาธรรมมั่งกายนี้ ต่างก็ให้เนื้อถึง “การมีอยู่ของพระสัมมสัมพุทธเจ้า” ตลอดจนพระคุณของพระองค์ในด้านต่าง ๆ ซึ่งเชื่อมโยงมาตามการปฏิบัติรวบรวม ที่จุดจบมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ความสำคัญของการพรรณนาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้กำนามผสมผสานไว้ในคำเขื่องขององค์ “พิธีพูถาภิเษก” หรือการทำพิธีพระพุทธเจ้านั้น “กลับมาอยู่ชิวิต” โดยผ่านบทในคาถาธรรมภาย ซึ่งเป็น
ผู้เขียนได้อธิบายไว้ในฉบับก่อนว่า ประเด็นสำคัญที่มองขาดคล้องกันของเนื้อหาของ ”คาถาธรรมมั่งกาย” ที่พี่วัดครึ่งมงคล (วัดโถง) นั้น นับจากเนื้อหาในภาคบาล คัมภีร์พระจุฬามณีที่ถูกเก็บรักษาไว้ทั่วพระเกตุพูนิมมังคลาราม (วัดโพธิ์) นั้น อยู่ที่การสรรเสริญคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การเปรียบเทียบหัวส่วนต่าง ๆ ของพระราวของพระพุทธองค์นั้นคือ “พระอาญา” อาจทำ พระสังขฤฌญาณ คือ พระเดีย พฺรนิพฺพาน เป็นอารมณ์ คือ พระเจตสา พระจตุถคุณาน คื อ พระเนลญ พระวิรชามปดิญญาณ คื อ พระอุณโลม ทิพยจักขุ บัญญัติญาณ สัญลักษณ์ญาณ และธรรมจักษุ คื อ พระเนตร มรรคผลญาณ (ญุตตญาณ) คือ พระปราง โพธิปญาณ คื อ พระเนฎ คื อพระพุทบาญ สัมมไถญาณ คื อ พระปรานี ส่วนพระทกผลญาณนั้น คื อกลางพระภาค เป็นขั้น ซึ่งจุดนี้เป็น สาระสำคัญในกรอรรถเล่าสูงสุดขององค์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วางิงเขาคำที่กว่าคำถารายเป็นลักษณะของเนื้อหาอัชฌาสัย หรือคุณสมบัติของพระพุทธเจ้าและคำแนะนำให้โยนีควรปรปฎรณ “ลักษณ์มผฺพภูวะคงา” ควรระลึกถึงสัจจันนี้ไม่มีบรรจุกา แต่มันเรื่อง “มูฏฐานสุด อุตถภูมินนา” ขององค์ เซเดรณ์ ด้วย