ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลวงพ่อตอบปัญหา
ถาม : พระพุทธศาสนา สอนวิธีทำให้ตัวเองมีคุณค่าไว้อย่างไร ?
ตอบ : สมัยพุทธกาลก็มีคนสนใจเรื่องทำของกันมาก เขาสนใจว่าจะหามีชีวิตอยู่นี้ เขาจะต้องทำอะไร เขาจะอยู่ได้ดี และเมื่อถึงคราวตายจากโลกนี้ไปสู่โลกหน้า ชีวิตใหม่ของเขาก็จะไปดีด้วย เพื่อเป็นการเตรียมตัวดีดี เขาจะต้องทำอะไรและทำอย่างไรไว้มิในชาติปัจจุบัน
คุณค่าเองตัวเองคือได้ทำประโยชน์ให้แก่ตนเอง และทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น เช่นเพื่อนมนุษย์ผู้ว่านที่เกิดแก่เจ็บตาย การทำประโยชน์ให้แก่ตนเองยังแบ่งได้ คือ ประโยชน์ในชีวิตซึ่งปัจจุบันและชาติหน้ า
เริ่มต้น ผู้ถามมีความเข้าใจในเรื่องกรรม ชีวิตเราไม่ว่าจะในโลกนี้หรือโลกหน้ายังอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม ซึ่งมีกติกาว่าใครทำกรรมใดไว้ ตนจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนัน ดังนั้น ถ้าเราปรารถนาจะรับผลดีอะไร เราต้องเป็นผู้ประกอบเหตุเอง ใครอื่นหรือผู้ใดจะดลบันดาลให้หรือมาทำเหตุแทน หรือรับผลแทนนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
หลักกฏแห่งกรรม เหตุและผลแห่งกรรม นั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะค้นพบได้ ชาวโลกได้อาศัยพระสังฆคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง พระองค์จึงเป็นผู้พบกฏแห่งกรรม ซึ่งมีอยู่ก่อนแล้ว และบังเกิดมนุษย์และสัตว์ให้เป็นไปตามกฏนั้น เมื่อพระองค์ค้นพบและทำลายล้างกฏแห่งกรรมของพระองค์ได้แล้ว ก็พระมหากรุณาโปรดสัตว์โลกให้ดูตาม เพื่อจะได้ปฏิบัติตนเองให้รอดปลอดภัยภายใต้กฏแห่งกรรม พร้อมกับเผื่อทางพ้นจากกฏแห่งกรรมตามพระองค์ได้
ครั้งหนึงยกตันหนึงนามว่า “อาวาสิกษะ” ได้โอกาสลูกาปัญหากับพระผู้พฤกษ์ว่า “บุคคลละจากโลกนี้ไปสู่อีกโลกหนึ่งแล้ว ย่อมไม่เศร้าสลดอย่างไร” คำตอบของพระพุทธองค์ซึ่งเป็นที่มาของ “มราวาสธรรม” ธรรมพื้นฐานของผู้ครองเรือนให้ประสบสุขทั่วทั้งโลกนี้และโลกหน้า คือ ผู้ใดมีศรัทธาอยู่ครองเรือน 有ธรรม ๕ ประการ คือ สัจจะ ทะนต์ ตติ และ ฎนะ ผู้ชั้นและละจากโลกนี้ไปแล้วย่อมไม่เศร้าสลด