ข้อความต้นฉบับในหน้า
ย้อนอดีต...ท่องประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ตอนที่ ๒๙
ภาพ : พ. ณัฏฐวัฒน์ ณญ์โกวิท
หลวงพี่เปรม
คุณสมบัติของพุทธบริษัทนั้นไร้
ที่พระพุทธองค์ทรงประกาศ
“พระผู้พระจาค 프로ป็นพุทธ
ในบั้นปลาย”
“มาสู้บาปเรายังไม่รั้งพนัก
ตราบเท่าที่กิเลสอย่ามาเช็ดวางของเรา...อุบาทนี้หลออยู่อยู่อยู่ของเรา...อุบาทนี้หลออยู่อยู่อยู่ของเรา ยังไม่เข็ดแหละ ไม่ดันท้อกันแน่ ไม่เปี๊ยกล่ำ ไม่ปิ๊งพูดสุทธิ ไม่ธรรม ไม่ปฏิบัติธรรมสมควรดี ไม่ปฏิบัติธรรม ไม่ปฏิบัติธรรม เรียบเทียบ อาคารของตนเอง แต่บอกแล้ว แสดง บัญญัติ กำนด เบ่ง เล่ามา ล้นแก ทำให้หยับไม่ได้ ยังสต่อธรรมมามีบุญถีร ปราบปรามว่าดั้งดีฉันให้ร้อยร้อยโดยชอบธรรมไม่ได้
ฯลฯ
ระหว่างที่ ๓ เผยแพร่ธรรมได้ และสามารถ “ปราบปรามา” ได้
ระหว่างที่ ๒ ปฏิบัติธรรมจนรอดธรรม
ระหว่างที่ ๑ ศึกษาธรรมจนเป็นพุทธ
“ปราบปรามา” คือการจี้เขย่าแก้คำถามว่าที่ให้ดูถูกสึกว่าการเป็น “นายแดกดันในพระพุทธศาสนา” นั้นเอง
ที่มา มหาบัณฑิตพยาบูรณ์ จุฬาฯ มหาวชิร ๑๐/๑๒/๓๙/๑๐๑๙-๑๐๒๙ แปล มธ.
ปราปฏฺปะนา” [ปะ-สะ-ปะ-นะ] หมายถึง คำว่า คำว่า คำกล่าวโกน คำถาม คำกล่าวโทษ คำกล่าวชมของที่เห็นไม่ตรง
เพราะมีความเห็นไม่ถูกฐานเป็นร่าง มีสิทธิ์กั้นกันบ้าง หรือพระธูปิยยามส่วนตัวบ้าง