ข้อความต้นฉบับในหน้า
และวันเพ็ญอาทิตย์ที่ ๑๘ กันยายน ปีนี้เอง
เป็นวันแห่งการค้นพบวิชชาธรรมกายเวียนมา
บรรจบอีกครั้ง เหล่าศิษยานุศิษย์ต่างพร้อมกันมา
ปฏิบัติบูชา และน้อมถวายอามิสบูชา ซึ่งจะขอ
เล่าถึงอานิสงส์แห่งการบูชานี้ โดยยกตัวอย่าง
เรื่องราวในพระไตรปิฎก ที่พระสุริยเถระ ซึ่งท่าน
ได้รับอานิสงส์อันยิ่งใหญ่จากการบูชาด้วยจิตอัน
เลื่อมใส ในครั้งที่ได้เกิดเป็นอุบาสกได้สดับฟังคำ
สอนของพระพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ ทำให้เกิด
ความเลื่อมใสในพระองค์มาก จึงได้ครุ่นคิดอยู่
ตลอดเวลาที่จะสร้างบุญพิเศษกับพระบรมศาสดา
จนกระทั่งวันหนึ่งท่านได้มีโอกาสไปฟังธรรมที่
พระวิหารมองเห็นพระบรมศาสดานั่งแสดงธรรม
เหนือพระอาสน์ จึงฉุกคิดว่า ในขณะที่พระองค์
ประทับนั่งบนบัลลังก์ เราจะเอาบุญใหญ่กับ
พระองค์โดยการถวายตั้งที่นั่งแสดงธรรม เพราะ
ทุกๆ ครั้งที่แสดงธรรมเราก็จะได้บุญอันไม่มี
ประมาณไปกับพระองค์ด้วย
คิดแล้วก็ไม่รอช้า เพราะกลัวเวลาในโลก
มนุษย์ของตนเองจะหมดเสียก่อน จึงรีบสั่งทำตั้ง
แกะสลักลวดลายอันวิจิตร เมื่อสร้างเสร็จก็
น้อมนำมาถวายแด่พระองค์ และทุกครั้งเมื่อ
อุบาสกท่านนี้เดินทางมาวัด มองเห็นพระบรม
ศาสดานั่งบนฝั่งที่ตนน้อมถวาย ก็เกิดมหาปีติ
อย่างท่วมท้นถึงกับรำพึงว่า “เราได้สร้างบุญใหญ่กับ
พระบรมศาสดา เราได้สั่งสมบุญพิเศษนี้กับ
เนื้อนาบุญอันเลิศ” ความปีตินี้ได้ประทับอยู่ในใจจน
หมดอายุขัยและได้ละโลกไปพร้อมกับมหาปีติ
ด้วยผลบุญนี้ทำให้ไปเกิดบนสวรรค์สมบูรณ์ด้วย
สมบัติอันไม่มีประมาณ และนับตั้งแต่กัปที่ ๙๒
ท่านไม่เคยไปเกิดในทุคติเลย ท่านได้เกิดเป็น
พระเจ้าจักรพรรดิถึง ๓ ครั้ง ครั้งแรกพระนามว่า
รุจิ ครั้งที่ ๒ พระนามว่า อุปรุจิ ครั้งที่ ๓ พระนาม
ว่า มหารุจิ แล้วทุกชาติท่านจะได้สมบัติพิเศษ
อยู่อย่างหนึ่งคือ จะมีโภคทรัพย์อันไพบูลย์เกิดขึ้น
มีที่นั่งที่นอนอันนุ่มนวลราวกับของทิพย์ จนกระทั่ง