ฝันในฝัน วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน กันยายน พ.ศ.2548 หน้า 63
หน้าที่ 63 / 92

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเดินทางของหลวงเทพที่ได้พบกับงูซึ่งเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษและมีตำนานเล่าขานในครอบครัวเกี่ยวกับงูที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 และ 5 การปฏิบัติการบูชาและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับงูในประวัติศาสตร์ไทยในจังหวัดชัยนาทและระนอง เมื่อหลวงเทพได้ค้นพบความเชื่อที่มีก็เกิดฌาณในจิตใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ยาวนานนี้.

หัวข้อประเด็น

-งูและความเชื่อในตำนาน
-ประวัติศาสตร์ไทย
-การบูชาและพิธีกรรม
-การเดินทางของหลวงเทพ
-ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

Dream in Dream ฝันในฝัน ศรีอยุธยาเสียแก่พม่า จนถึงหลวงเทพ ลูกหลานชั้น ตรงกลางรายรอบระเบียง มีสายพันกัน ๒-๓ ตัว ที่ 5 ของท้าวทรงกันดารพี่สาวของงู รัชกาลที่ ๔ ก็ โปรดเกล้าฯ ให้หลวงเทพเป็นข้าหลวง เชิญเครื่อง พระราชทานเพลิงศพเจ้าเมืองหลวงพระบาง เมื่อ ไปถึงป่าเขางู ก็หยุดพักแรม บริวารก็ออกไปเก็บผัก หักฟื้น พบงูตัวหนึ่งโตราว ๒ กำครึ่งนอนขดอยู่ ลำตัวสีเหลืองหม่น ที่หัวมีรอยตีนกาขาว ก็รีบกลับ มาเล่าให้ฟัง หลวงเทพจึงขึ้นช้างไปดูงูและเห็นรอยตีนกา ขาวจริง สันนิษฐานว่างูตัวนี้กระมังที่บิด ทบิดามารดา เคยเล่าให้ฟังว่าเรามีพี่น้องปู่ย่าเป็นงู สีสันวรรณะ ห้อยลงมาเหมือนห้อยลูกแก้ว คนจำนวนมากได้ เห็นเหตุการณ์ไม่น่าเชื่อนี้โดยตลอด ต้องจุดธูป เทียนบูชา ๓-๔ วัน จนย้ายหอนั่งเสร็จ งูจึงค่อยๆ หายไปทีละเล็กทีละน้อย ทีละตัวสองตัว ต่อมา พ.ศ. ๒๕๕๑ ตรงกับรัชกาลที่ ๕ ลูก หลานของผู้สำเร็จราชการเมืองชัยนาทได้ซื้อที่ดิน ใหม่หน้าวัดมกุฏกษัตริยาราม และก็รื้อหอนั่ง ไป ปลูกใหม่ในที่นั้น มีงูเขียวประมาณ ๓๐ ตัวเศษ เลื้อยลงมาจากต้นหูกวาง ซึ่งแต่เดิมจะอยู่กันอย่างไร ไม่มีใครรู้ โพรงที่โคนต้นหูกวางก็ไม่มี งูได้เลื้อย และเครื่องหมายที่กระหม่อมก็ตรงกันทุกอย่าง ตามกันมาเป็นแถว แต่ละตัวเลื้อยแบบหัวจรดหาง หลวงเทพจึงหมายว่า งูตัวนั้นเป็นญาติของท่าน ท่านจึงสั่งบ่าวไพร่ให้ช่วยกันตัดไม้ทำเป็นปะรำ หางจรดหัวต่อๆ กันลงไป ๓๐ กว่าตัว ลงมาจาก ต้นไม้พอถึงพื้นดินก็ตามกันไปขึ้นไปที่หอนั่ง ห้อย กว้างยาวประมาณ ๓ วา เอาใบไม้และแฝกคามุง ยั้วเยี้ยตามฝา อยู่ได้ ๓ วัน ก็พากันลงดิน เลื้อย เป็นหลังคาบังร่มเสร็จ แล้วก็จุดธูปเทียนบูชา ลอดรั้วเข้าสวนหายไปไม่มาให้เห็นอีกเลย อธิษฐานว่า ถ้างูตัวนี้เกี่ยวข้องเป็นญาติของเราแล้ว ละก็ ขอจงมาสถิตอยู่ในที่ที่เราทำไว้นี้เถิด รุ่งเช้า * ตำนานโจรสลัด หลวงเทพได้เดินทางต่อไปถึงหลวงพระบางจนเสร็จ การศพของเจ้าเมืองหลวงพระบางแล้ว และก็เดิน ทางกลับมาจนถึงป่าเขางู เห็นงูตัวนั้นอยู่ในปะรำที่ ท่านสร้างให้ ก็รู้สึกปีติยินดีเป็นที่สุดเหมือนได้พบ หน้างูที่เป็นทวดน้อยๆ ของท่าน แล้วก็เดินทาง กลับกรุงเทพฯ ตั้งแต่นั้นมา บรรพบุรุษของลูกก็ได้ประกาศ ห้ามลูกหลานและบริวารทำร้ายงูทุกตัว ต่อมา บุคคลสำคัญในตระกูลอีกคนหนึ่งคือ พระยาสุรา บดินทร์ฤๅไชย ได้ไปเป็นผู้สำเร็จราชการเมืองชัยนาท ก็มีงูมางานศพของท่าน วันหนึ่ง ขณะที่ลูกหลานของท่านผู้สำเร็จ ราชการเมืองชัยนาทกำลังย้ายหอนั่ง งูเขียวก็เลื้อย มาที่ระเบียงหอนั่งยั้วเยี้ยไปหมด พันกันโตเท่า มะพร้าวปอกแล้วพวงละ ๓ ตัวบ้าง พวงใหญ่อยู่ จังหวัดระนอง คือสถานที่ที่เจ้าของ Case ถือ กำเนิด เป็นจังหวัดที่อยู่ฝั่งอันดามัน ตั้งแต่แหลม มาลายูขึ้นมาจนถึงพม่า เมื่อ ๒๐๐ ปีที่แล้ว เต็มไป ด้วยโจรสลัด จังหวัดระนอง ขณะนั้นเป็นเพียงหมู่ บ้านเล็กๆ มีบ้านเรือนตั้งเป็นหย่อม ๆ ห่างๆ กัน ติดชายแดนพม่า จึงมีโจรสลัดทั้งสัญชาติไทยกับพม่า คอยปล้นสะดมเรือสินค้า และเรือขนแร่ดีบุกใน น่านน้ำอยู่เสมอๆ มีเรืออยู่ลำหนึ่ง โจรสลัดเจ้าของเป็นสามี ภรรยากัน ทั้งสองมีวิชาคาถาอาคม สามารถใช้อาวุธ เช่น มีด หอก ดาบ ได้อย่างเชี่ยวชาญ โดยไม่มี อาวุธใดระคายผิวได้เลย ด้วยความห้าวหาญและ อยู่ยงคงกระพัน ทำให้สามีภรรยาปล้นสมบัติได้ มากมาย โจรสลัดคู่นี้ดุร้ายมาก วันไหนไม่ได้ออก ob ป
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More