ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทำชั่ว ได้แก่ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เจ้าชู้
นี่คือลักษณะทั่วไปของคนพาล หรือที่ภาษา
ชาวบ้านเรียกว่าคนชั่ว ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงให้ใช้กรรมของเขาเองนั่นแหละเป็นเครื่องตัดสิน
โทษของการคบคนพาล
ถ้าหากเราหลงไปคบกับคนพาลเข้า อุปมา
ก็เหมือนกับเอาของแห้งไปวางไว้ใกล้ๆ ของเปียก
แล้วไม่ระมัดระวังให้ดี ของเปียกก็จะซึมเข้าไปใน
ของแห้ง ของแห้งก็จะกลายเป็นของเปียกไป
หรือเหมือนกับเอาอาหารที่มีรสจืดมาวางไว้
ใกล้ๆ อาหารที่มีรสขม อาหารรสจืดก็จะพลอยมี
รสขมตามไปด้วย
คนเราก็เหมือนกัน ถ้าไปอยู่ใกล้ๆ คนพาล
คนพาล คือคนที่ชอบคิดชั่ว
ชอบพูดชั่ว ชอบท่าชั่ว เป็น
ปกติ เป็นอาจิณ
หลวงพ่อตอบปัญหา ?
ก็จะติดนิสัยพาล ติดนิสัยชั่วของเขามา
เมื่อเข้าใกล้คนพาล คบกับคนพาล สิ่งแรก
ที่จะทำให้เราเสียคือ วินิจฉัย หรือการตัดสินใจว่า
สิ่งใดดี สิ่งใดชั่ว สิ่งใดผิด สิ่งใดถูก สิ่งใดควร
สิ่งใดไม่ควร เราจะตัดสินไม่ออก แล้วจะมีความเห็น
ผิดเป็นชอบตามเขาไปด้วย เพราะว่าคนพาลจะมี
วิธีการตัดสินใจไม่เหมือนคนดีหลังจากที่เราคิดผิดๆ
ก็จะพูดผิดๆ ทำผิด ๆ ตามมา
เพราะฉะนั้น สังคมใดมีคนพาลเข้าไปอยู่
จึงมักจะเกิดความวุ่นวาย และไม่ใช่เฉพาะแต่
ประเทศไทยของเราเท่านั้น แม้ประเทศอื่นๆ
ก็เหมือนกัน ถ้าครั้งใดได้คนพาลเข้ามาบริหาร
บ้านเมือง ไม่ว่าจะในระดับไหน ก็มักจะทำให้เกิด
ความวุ่นวายตามมาทั้งนั้น
บางครั้งทำให้เกิดสงครามตั้งแต่ระดับ
หมู่บ้าน จนกระทั่งถึงระดับโลกก็มี เพราะฉะนั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงสอนนักหนาว่า
อย่าคบคนพาล
ประเภทของคนพาล คนพาลแบ่งออกเป็น
๒ ประเภท คือ
ABA