ข้อความต้นฉบับในหน้า
ย้อนไปในอดีตยาวนานนับแสนกัป มีดาบสท่านหนึ่ง
ถือเพศเป็นนักบวช สร้างอาศรมบท บำเพ็ญพรตอยู่ที่
ภูเขาลูกหนึ่งชื่อว่า เหมกะ ไม่ไกลจากภูเขาหิมวันต์
เป็นผู้มีตบะธรรมแก่กล้า ทรงอภิญญาสมาบัติ มีลูกศิษย์
เป็นชฎิลคอยอุปัฏฐากบำรุงให้ความเคารพสักการบูชา
มากถึง ๔๐,๐๐๐ องค์
ตัวท่านเองมาคิดว่า มหาชนพากันมาบูชาเรา แต่เรา
ไม่ได้บูชาสิ่งใด เป็นการไม่สมควรเลย ผู้ที่จะว่ากล่าว
สั่งสอนก็ไม่มี เราเป็นคนไม่มีอุปัชฌาย์อาจารย์ เป็น
คนอนาถาไร้ที่พึ่งที่ระลึก จึงมานั่งใคร่ครวญดูว่า เรา
ควรแสวงหาบุคคลที่เราควรเคารพบูชา ชีวิตจึงจะมี
คุณค่า การอยู่ป่าก็จะไม่เปล่าประโยชน์ เนื่องจากเป็น
ผู้ทรงอภิญญา สามารถระลึกชาติได้ถึง ๔๐ กัป จึง
ระลึกชาติย้อนหลังไปดู ก็ได้พบผู้รู้ที่ยิ่งใหญ่คือ พระ
สัมมาสัมพุทธเจ้า พลันก็เกิดความปีติเลื่อมใส ดีใจว่า
เราได้พบอาจารย์ผู้เป็นที่สักการบูชาแล้ว
ในที่ไม่ไกลจากอาศรมของท่าน มีแม่น้ำสายหนึ่งซึ่งมี
ชายหาดที่ราบเรียบ สวยงาม น่ารื่นรมย์ใจ เต็มไป
ด้วยทรายที่ขาวสะอาด ท่านจึงไปที่หาดทรายนั้น
ตะล่อมเอาทรายมาก่อเป็นเจดีย์ทรายขึ้น เพื่อเป็น
เครื่องระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เมื่อก่อพระเจดีย์เสร็จแล้วก็ให้หุ้มปิดด้วยแผ่นทองคำ
กลายเป็นเจดีย์ทองที่สูงค่า แล้วก็นำดอกกระดึงทองมา
๓,๐๐๐ ดอก กระทำการบูชาที่เจดีย์นั้น เกิดความ
อิ่มเอิบ เบิกบานใจ ได้ประนมมือไหว้ทั้งในเวลาเช้า
และเวลาเย็น โดยมีจิตเคารพเลื่อมใสในพระสัมมาสัม
พุทธเจ้า ประดุจว่ากระทำการบูชาต่อเบื้องพระพักตร์
oghe you