ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๖
วัดบ้าง ทำอย่างนี้ต่อเนื่องมาเป็นเวลา ๒๐ ปี
ก่อนที่เราจะติดตามผลกันว่า การบริหารงาน
ของผู้จัดการหนุ่มหน้าใหม่ ด้วยการหักเงินคนใน
บริษัทไปทำบุญนั้นจะได้ผลอย่างไร มาคั่นจังหวะ
ด้วยชีวิตในแง่มุมของความรักบ้าง
ในจังหวะที่ทำงานอยู่ที่นั่น คุณพันธ์ณรงค์ได้
พบรักกับคุณไอดาหญิงสาวชาวอินโดนีเซีย ในเรื่องนี้
คุณไอดาเล่าว่า “ฉันเป็นชาวอินโดนีเซียโดยกำเนิด
เติบโตมาในครอบครัวของชาวมุสลิม ต่อมาพอได้
พบกับคุณพันธ์ณรงค์ก็ได้ศึกษาดูใจกันอยู่ระยะหนึ่ง
ซึ่งฉันคิดว่า ความรักก็เหมือนกับพระคัมภีร์ที่เรา
ต้องค่อยๆ อ่าน นอกจากอ่านหัวใจกันและกันแล้ว
ยังได้ศึกษาความเชื่อของทางฝ่ายชายด้วย เพราะ
ถ้าความรักลงเอย แต่ความเชื่อไม่ลงรอยกัน ชีวิต
คู่ก็ไม่ยืนยาว”
ฝ่ายชายเองก็ออกตัวว่า “ผมเป็นพุทธนะ
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่เป็นอิสระ ถ้าใครไม่
นับถือก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ให้ทำบาป และอย่าเชื่อใน
สิ่งที่ผมพูด ต้องลองศึกษาดู”
“ซึ่งตอนนั้นฉันก็ใช้หลักการว่า ความเชื่อเอา
ไว้บนหิ้ง แต่ความจริงเราต้องศึกษา และลอง
ปฏิบัติให้เห็นจริง เมื่อได้ศึกษาพระพุทธศาสนา และ
เห็นว่ามีเหตุมีผล สอนให้เป็นคนดี รวมทั้งมีหลัก
ปฏิบัติที่เป็นสากล เมื่อศึกษาอย่างดีแล้ว ฉันก็
ตัดสินใจแต่งงานกับสามีที่เป็นชาวพุทธ ซึ่งทาง
คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ขัดข้อง เราจึงไม่มีพรมแดนทาง
ด้านศาสนา และเราถือว่า ศาสนาเป็นเรื่องของ
ความดีงาม ถ้าสิ่งที่สามีทำเป็นสิ่งที่ดี ฉันก็ทำตาม
เช่น ไปวัดทำบุญ ฉันชอบทำกับข้าวไปถวายพระ
แม้กลับจากวัดแล้วฉันก็จะเตรียมกับข้าวไว้สำหรับ
ใส่บาตรวันพรุ่งนี้ด้วย”
ซึ่งก็นับได้ว่าชีวิตในแง่มุมของความรัก
และชีวิตครอบครัวของคุณพันธ์ณรงค์
ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ในด้าน
ของการทำงานจะเป็นอย่างไร
“จากการที่ผมได้นำเงินจากพนักงาน
ทุกคนไปทำบุญอย่างต่อเนื่อง ต่อมาไม่
นานผลประกอบการของบริษัทเติบโตขึ้น
ตามลำดับ กิจการก็ดีขึ้นๆ มาก จนต้อง
ขยายงานเพิ่ม จากขาดทุนใกล้ล้มละลาย
กลายเป็นเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด จากที่มี
พนักงานในบริษัททั้งหมด ๔๐๐ - ๕๐๐ คน
ปัจจุบันนี้ขยายเป็น ๔,000 คน ตอนนั้นก็
แอบภูมิใจครับ คิดว่าตัวเองเก่ง เพราะจริงๆ แล้ว
ผมก็ไม่รู้เรื่องบุญมากหรอกครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม
ผมจึงคิดอย่างนั้น และพอบริษัทเจริญขึ้น เงินดี
หน้าที่การงานสูงขึ้น ก้าวสู่ระดับผู้บริหาร ก็เปิด
โอกาสให้สิ่งไม่ดีต่างๆ เข้ามา เช่น เหล้า บุหรี่
เที่ยวผู้หญิง และการที่ต้องทำงานกับคนงาน 4,000
กว่าคน และต้องไปให้ถึงเป้าทุกเดือน ทำให้เครียด
โมโหฉุนเฉียว อารมณ์เสียบ่อยๆ จนเมื่อ 6 ปีที่แล้ว
ธันวาคม ๒๕๕๗ ผมกลับบ้านที่เมืองไทย เห็น
พี่สาวกำลังดูที่จอโทรทัศน์อย่างตั้งใจ จึงไปนั่งดู
ด้วย ภาพในจอเป็นเรื่องราวของกฎแห่งกรรมที่ฉาย
จากแผ่น VCD ที่เพื่อนคนหนึ่งเอามาให้กับพี่สาว
ผมเห็นแล้วขนลุก พร้อมกับตระหนักขึ้นมาทันทีว่า
“เราพลาดไปเสียแล้ว” ตอนที่เรากินเหล้าเมายา
ความรู้พื้นฐานเราก็พอมีอยู่บ้างว่ามันผิดศีล แต่ก็
ไม่เคยรู้อย่างชัดเจนมาก่อนว่า เมื่อทำผิดแล้วจะ