ข้อความต้นฉบับในหน้า
๔๒
จนกระทั่ง คุณสมเดช สุขประดิษฐ์อาภรณ์ ที่เขาเข้าวัดพระธรรมกายเป็นประจำที่เราติดต่อ
ธุรกิจกับเขา ชวนเราไปฟังเกี่ยวกับเรื่องการสร้างพระ ใจจริงไม่อยากไปเลย แต่จำใจ
ต้องไปเพราะพี่คนชวนเขาเป็นคนดีและคอยช่วยเหลือเรามาโดยตลอด ด้วยความ
เกรงใจตรงนี้ เราเลยต้องไป พอได้ฟังวิทยากรชื่อพี่หนูออกมาพูด ทำให้คิดตามหลายๆ
อย่าง เพราะรู้สึกโดนใจ เช่น เรื่องความกตัญญูต่อพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย เพราะเรารู้อยู่
แล้วว่าความกตัญญูเป็นสิ่งที่ดี ขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่เราก็ต้องตอบแทนโดยการดูแล
ท่านอย่างดีที่สุด และต้องตามดูแลต่อแม้ท่านลับโลกไปแล้ว โดยการหาที่ที่ดีที่สุด เพื่อ
ฝังศพท่าน ที่เราเรียกกันว่าฮวงซุ้ย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรามีโอกาสไปฮวงซุ้ย
ทำบุญให้ท่านแค่ปีละครั้ง พอไปถึงก็เห็นหญ้าขึ้นรกร้าง ฝุ่นดินเต็มไปหมด ดูแล้วรู้สึก
หดหู แต่หากมีสถานที่แห่งหนึ่งที่เราทำให้บรรพบุรุษของเรา และสถานที่นั้นมีคนดูแล
ทำความสะอาด เปิดไฟส่องสว่างให้สวยงาม มีคนมาบูชากราบไหว้ทุกวัน แถมสถานที่
นั้นอยู่ไปเป็นพันๆ ปี และที่สำคัญยังได้ทำบุญให้ท่าน โดยการสร้างองค์พระประจำตัว
จารึกชื่อให้ท่านอีก พอเราฟังมาถึงตรงนี้ เราใจเปิดมากๆ อยากทำทันที เพราะว่า
คนในตระกูลเราก็ยังไม่เคยมีใครได้ทำบุญสร้างเจดีย์อะไรทำนองนี้เลย ซึ่งตอนนั้นไม่
สนใจหรอกว่าจะเป็นของวัดพระธรรมกายหรือไม่ จะเป็นของที่ไหน หากได้คอนเซ็ป
ตามนี้เราก็ยินดีสร้าง เพราะใจอยากทำเพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณให้กับคนที่เรารักอยู่
จึงตัดสินใจจองสร้างพระทั้งหมด องค์ทันที ทั้งที่ไม่มีเงิน พอกลับบ้านเลยนอน
ก่ายหน้าผาก เพราะไม่รู้จะไปหาเงินจากไหน แต่ก็อัศจรรย์ใจมาก พอนึกจะทำบุญใหญ่
อยู่ๆ พ่อก็ให้เงินก้อนใหญ่อย่างไม่คาดคิด โดยที่ไม่ได้เอ่ยปากบอกอะไรท่านเลย
เพราะพ่อขายบ้านได้ เลยทำให้เราได้บุญอย่างอัศจรรย์ พอทำบุญไป ได้มาดูเจดีย์รู้สึก
ประทับใจว่า วัดเขาสร้างใกล้เสร็จแล้ว ที่เราทำบุญไปเห็นเป็นรูปเป็นร่างได้เร็วมาก
เลยทำให้ประทับใจว่า การที่วันนี้เราได้มาทำบุญกับวัดใหญ่ๆ เขาได้เอาเงินที่เรา
แล้ว
๑๑
บริจาคมาสร้างสถานที่ เพื่อรองรับคนหลายแสนคนเพื่อมาทำความดี มานั่งสมาธิจน
พบความสุข เลิกอบายมุขกันมากขนาดนี้ แถมมีคนมาเป็นประจำไม่ได้ขาดเลย รู้สึก
ว่าสิ่งก่อสร้างในวัดแต่ละแห่งได้ใช้ประโยชน์ตลอด มีคนดูแลเอาใจใส่ไม่ปล่อยให้รกร้าง
ทำบุญอย่างนี้ ทำให้เราได้บุญมาก เพราะเขาสร้างแล้วเอาไปใช้จริงๆ
แต่ช่วงนั้นปัญหาชีวิตเราก็ยังไม่คลี่คลาย จนพี่ที่มาวัดพระธรรมกายก็เอ่ยปากชวนให้ไปนั่ง
สมาธิที่พนาวัฒน์อีก แต่เราก็ปฏิเสธอีก โดยอ้างโน่นอ้างนี้ จนเขาชวนหนักๆ เข้า
ก็เลยยอมตกลงทั้งที่ไม่อยากไปเลย เพราะยังไม่ได้ศรัทธาอะไรมากมาย แต่เมื่อตกลง
แล้วก็ต้องไป ขณะเดินทางก็รู้สึกประทับใจอีก เพราะในรถไม่อึกทึกโหวกเหวก ไม่มีกิน
เหล้า ตีกลองดังๆ เหมือนไปทำบุญที่อื่นเลย เพราะคนบนรถทุกคนจะนั่งสวดมนต์
พร้อมกันอย่างสงบ ทำสมาธิกันไปจนถึงจุดหมายปลายทาง พอไปถึงพนาวัฒน์ ที่นั่น
บรรยากาศดีทุกอย่าง เราได้นั่งสมาธิกันเต็มที่จนเกิดประสบการณ์ภายในจากสมาธิ
จึงทำให้เราเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติที่เกี่ยวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะขนาด