ข้อความต้นฉบับในหน้า
ฝ่ายอังกุระได้มายืนมอบสิ่งของต่างๆ ด้วย
มือของตนเอง ทำไปก็ปีติเบิกบาน แทนที่จะให้คน
ที่มาขอทานนั้นขอบคุณตนเอง แต่กลับรู้สึกขอบอก
ขอบใจต่อเขาเหล่านั้น ที่อุตสาห์เดินทางมารับทาน
จากท่าน และเมื่อละโลกไปแล้ว ท่านก็ได้ไปบังเกิด
ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เสวยทิพยสมบัติอยู่เป็นเวลา
นานทีเดียว
บางครั้งแม้เรามีกุศลศรัทธาอยากจะ
ให้ทาน ทรัพย์ก็พร้อม ศรัทธาก็เต็มเปี่ยม
แต่ถ้าไม่มีทักขิไณยบุคคล ผลบุญที่เกิดขึ้น
ก็เหมือนหว่านพืชลงในนาดอน ผลที่เกิด
ขึ้นได้ผลไม่เต็มที่สมกับที่ได้ทุ่มเทลงไป
ทานของลุงอินทร์ Less is more
มาในยุคสมัยพุทธกาลของเรา มีพราหมณ์
ผู้ยากไร้คนหนึ่งชื่อ อินทกะ เป็นคนมีศรัทธาแต่ไม่มี
ทรัพย์ วันหนึ่งเขาได้เห็นพระอนุรุทธะบิณฑบาตผ่าน
หน้าบ้าน ด้วยจิตที่เลื่อมใสจึงได้ถวายข้าวทัพพีหนึ่ง
ด้วยบุญนั้น เมื่อละสังขารไปแล้วได้ไปบังเกิดเป็น
อินทกเทพบุตรผู้มีรัศมีกายที่รุ่งเรืองสว่างไสวยิ่ง
กว่าอังกุรเทพบุตรนั้นอีก
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปประทับอยู่
ที่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ เทวดาทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุ
พากันมานั่งประชุมเพื่อฟังธรรม ไม่มีเทพตนไหนที่
จะมีรัศมีกายสว่างกว่าพระพุทธเจ้าเลย พุทธรัศมี
นั้นสว่างไสวรุ่งโรจน์กว่ารัศมีใดๆ ของเทวดาทั้งหลาย
เทวดาที่มีศักดิ์ใหญ่ มีบุญมาก ก็จะได้นั่งอยู่แถวหน้า
ส่วนผู้ที่บุญน้อยกว่าก็จะถอยร่นออกไปเรื่อยๆ