ข้อความต้นฉบับในหน้า
ไม่ได้ และไม่ควรจะห้ามด้วย
สำหรับกรณีนี้ สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือ ย้อน
กลับมาดูตัวเราเองว่า ตัวเรานั้น
๑. ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง ด้วยการปฏิบัติตน
เป็นชาวพุทธที่ดีแล้วหรือยัง
๒. ได้ทำหน้าที่ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ดีแล้วหรือยัง คือ ย้อนกลับมามองที่ตัวของเราเอง
ดีกว่า ว่าทำอย่างไรตัวของเราถึงจะดีวันดีคืน ให้
สมกับเป็นชาวพุทธ และทำอย่างไรชาวโลกถึงจะ
รู้จักพระพุทธศาสนา ปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา
ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อพวกเขาจะได้พ้นทุกข์ พ้นร้อน
กันเสียที ต้องมองอย่างนี้ อย่าไปด่า อย่าไปว่า
อย่าไปโจมตีใคร
ส่วนการที่เราจะเผยแผ่พระพุทธศาสนาของ
เราบ้างนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้หลักในการ
เผยแผ่พระพุทธศาสนาเอาไว้ 5 ข้อด้วยกัน คือ
ไม่ว่าร้าย ชาวพุทธทั้งหลายต้องไม่ว่าร้าย
ไม่โจมตีใคร ไม่ว่าเขาจะนับถือศาสนาอื่น หรือว่า
เป็นคนที่ไม่มีศาสนาก็ตาม ใครชอบใจอย่างไร ก็
เป็นเรื่องของเขา
๑.
แต่ถ้าเขาสงสัยคำสอนในพระพุทธศาสนาเราก็
สามารถอธิบายให้เขาเข้าใจถูกได้ นี่คือ หน้าที่ของเรา
๒. ไม่ทำร้าย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเผยแผ่
พระพุทธศาสนาให้แก่ชาวโลกมาเป็นเวลานาน
ทั้งในสมัยพุทธกาลก็ดี หรือการเผยแผ่สืบทอดต่อ ๆ
กันมากว่า ๒,๕๐๐ ปีก็ดี พระพุทธองค์ไม่เคย
บังคับให้ใครมาเชื่อ ให้มานับถือพระองค์ และไม่
เคยฆ่า ไม่เคยทำร้ายใคร เพื่อให้เขาหันมานับถือ
พระพุทธศาสนา มีแต่คนของศาสนาอื่นที่มาฆ่า
ชาวพุทธ เพื่อบังคับให้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาของตน
เพราะฉะนั้นจำไว้เลยว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ไม่เคยบังคับให้ใครมาเคารพพระองค์ แต่ว่า ถ้าใคร
จะมาทำร้าย เราก็ต้องต่อสู้ป้องกันตัว ถึงอย่างนั้นก็
แค่ป้องกันตัว เพราะชาวพุทธปรารถนาสันติ ที่จะให้
ไปทําร้าย ทําลายใคร ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน ไม่ว่า
จะเป็นชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะ ไม่ทำเด็ดขาด นี้คือ
หลักการของชาวพุทธ
๓. เข้มงวดกวดขันตัวเอง เคร่งครัดในศีลและ
มารยาทให้สมกับเป็นลูกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สิ่งใดที่เป็นการแสดงความหยาบคาย ความ