การทำความดีในหลักสมมติสั่ง ล่าพญามาร หน้า 7
หน้าที่ 7 / 26

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับการทำความดีตามหลักสมมติสั่ง โดยยกตัวอย่างการเปรียบเทียบกับวัคซีนและการทำงานของร่างกายและจิตใจ มันชี้ให้เห็นว่าไม่ว่าสิ่งใดจะส่งผลต่อจิตใจ การรักและความเห็นต่างมีบทบาทมากมายในชีวิตคนเรา การเข้าใจองค์ประกอบระหว่างร่างกายและจิตใจสามารถนำไปสู่การพัฒนาจิตใจที่ดียิ่งขึ้น ในการปฏิบัติภาวนา การรับรู้และการเห็นด้วยใจนั้นมีความสำคัญในการสร้างคุณค่าชีวิตและการทำความดีได้อย่างแท้จริง โดยยกแนวคิดพระธรรมในพระไตรปกฉบับลวง เพื่อการเข้าใจที่เจาะลึก

หัวข้อประเด็น

-หลักความดี
-ร่างกายและจิตใจ
-การเห็นด้วยใจ
-การปฏิบัติภาวนา
-พระธรรมคำสอน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

อยู่แทบเท้าของมันโดยไม่รู้ตัว ทำความดีตามหลักสมมติสั่ง เหมือนวัคซีนที่ถูกละตะพาย ไม่ว่าเจ้าของจะดิ่งเชื่อกิ๋บอูไว้ให้ไปทางไหนมันก็ต้องไปทางนั้น พระสัมพุทธเจ้ามีทางแสดงความเวรของลามวัวว่า "ลูกก็รักผู้ท่วมหลาย ราคา โกะ โมะนะ บุคคลผู้เดินยังไม่ลืแล้ว บุคคลผู้นี้เรากล่าวว่า เป็นผู้ชมารูหาใจแล้ว สมมงนวล แล้วลูกก็ผู้มีบารมีทำ ได้ตามความพอใจ" มารูพบีที่ 2 ฉันบาร ในบทสวดมนต์ทำวัดรับว่า ค อคนึ่งรามคำว่า "รูปปาทานกันโ่ เทพปาทานกันโ่" สัญลักษณ์นี้หมายความว่าอะไรไหม? พระไตรปกฉบับลวง เล่ม 25 ข้อ 246 ราคาสตร ตัวของเราขณะหยั่งลึกอยู่ในนี้ ประกอบด้วยองค์ประกอบขั้นต้น 2 ส่วนคือ 1. ส่วนที่เป็นร่างกาย 2. ส่วนที่เป็นจิตใจ ส่วนที่หนึ่งเป็นร่างกาย ภาษาเรานิยมว่า รูป ส่วนที่สองคือ ส่วนละเอียดที่ทำหน้าที่ควบคุมรูป เรียกว่า ใจ สำหรับส่วนนี้เป็นใจในฉัน สามารถ แบ่งต่อไปได้อัตตามขั้นตอนการทำงาน หรือปฏิบัติวิธีอย่างที่เกิดขึ้นภายในขณะทำงาน เป็น 4 ขั้นตอน ต่อเนื่องกันไป คือ ขั้นตอนที่หนึ่ง เป็นขั้นตอนรับรู้ คือถ้ามีภาพอะไรภายจะทับตกแล้ว ประสาทก็ส่งรายงานไปให้ใจ ใคร่รู้เอาไว้ เราเรียกว่า เห็น เป็นการ เห็นด้วยใจ ไม่ใช่เห็นด้วยตา ขอพิสูจน์คือ คนนัยต์ตายังยังมีอยู่ แต่ไม่ เห็น ทำไมไม่เห็นที่แสนปะน่ะ ด่ำเนีย ตอบว่า ไม่เห็น เพราะไม่มีใจเสียแล้ว
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More