ข้อความต้นฉบับในหน้า
บางคนเป็นคนมีเมตตา การสมาธิธรรมดาก็ย่อมยืนขึ้นบ้างไม่อยู่ อึดอัดบ้างมากก็ทำอะไรไม่ได้ แถมเสียกายตนจงดูจงใจ แล้วไม่ใช่จงจูงมาวดวย เป็นนึ่งเขาอาจมีรอยอมตินดินในมืรบ พื้นกันบ่ มีนิ่มบ่รัง ไม่ยอมให้คลามมาวัย แสนก็มีบ่ แมมกถึงสนามในร่ม แต่พอฤดูก็เอามาเข้าๆ "รื่นเอกสูบุยในไหม" กลัวตาย ก็เลยยอมความผิด ถ้าไม่กลัวตาย ตัดใจเสียกายตนอีกน่า ถึงเราตายไปคนนี้ก็ได้ เพราะไม่มีความชัดเจน ถ้าตัดใจจะเปรียบลงได้ อย่างนี้ มัจฉามิ์จะล่าวบอว่า ญะไปเอง
ประมาทต่อความตาย บุญกิ๋มไม่ไหว สำหรับเรื่องมัจฉา มีสิ่งเอือจะเตือนจากชาวพุทธอยู่เรื่องหนึ่ง คือ บางคนประมาทมากไป เช่นตั้งใจจะไปตกปลิ้ง จะไปตกผ่า จะทำหน้าที่เป็นกะนอเมตร ไปบุญพราวพาเพื่อผุผน เพราะว่าชีวิตมันทำได้แต่จะอิ่มเป็นความดี เป็นบุญปิ่นสุดจะไปเข้ากัน แล้วก็คิดว่าบุญจะตามคุณครูอุด เวลาขับรถก็ขับเร็วไปบ้าง ขับไปได้ดีคือดีนั่นเอง ผลสุดท้ายก็เลยไป ระงับเหตุ ถึงกับบอกว่าบางอาในระหว่างท่านไปบีบ ยับไปจัดดีดีน ดูจบดันผลิเอาไปประดับอยู่ในกูดตน
ทุ่มเทให้กับพระศาสนาขนาดโน้น ทำใบเงินใบทองเลยคุณครองเดอย อยากจะอดก้บคุณเลยแล้ว บุญนะอุด แต่ว่าความประมาทของงานได๋ไม่ลงอักครงเลยตายเลือน
บ่บ่าบ่ใน ตา หมูก ตา สุดท้ายจะทำความดีมาตามความเก็นถาม ถามความเก็นถามเพิ่นลองต่อมนั้น แล้วในข้างมียังได้ทำความดีอยู่ก็ยังขาดไปแล้ว ทำไมระบอบของตน ให้ความดีไม่นุ่มิัล จะไปดอกดีในก็
ความตายก็ตหนทางไปพระนิพพาน สิ่งนี้เอากล่าวกันจากก๊วนเทิงกับมัจฉา อันบางคนทำงานได้ทำความดี มายามามายตลอตชีวิต บี้ดี๋ใจคุณดีเหล่านี้ก็จะออกผลแล้ว จะต้องได้รับความสุข ความสมบูรณ์แห่งชีวิตอย่างแน่นอน บางรายจะได้รับโศจิรผลคุณอยู่เอื้อมแล้ว แต่ถูกความตายมัดดักโอกาสเสียมิ เช่น อาพวาดสวนกลางโคตร และ อุทุกดาบสมบูรณ์ พระอาจารย์ส่องท่านแรกของพระสัปดาห์ ด้งข้อความในพุทธวิธีตกาลได้ทรงตรัสไว้ใหม่ ๆ ว่