อสูทรทรายูและการเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า Dhamma TIME เดือนเมษายน พ.ศ. 2556 หน้า 25
หน้าที่ 25 / 40

สรุปเนื้อหา

เรื่องราวเกี่ยวกับอสูทรทรายูผู้มีร่างกายใหญ่โตถึง ๘,๘๐๐ โยชน์ ซึ่งเมื่อได้ยินกิตติศัพท์ของพระพุทธเจ้ามั่นใจว่าตนไม่เหมาะสมที่จะเข้าเฝ้า แม้จิตใจจะปรารถนาที่จะพบพระพุทธองค์ก็ตาม ในที่สุดพระพุทธเจ้าทรงอัศจรรย์ให้พระอานนท์ส่งเสริมให้เข้าเฝ้า พระอสูรทรายูจึงมาถึงพระพุทธองค์ด้วยความกังวล และในที่สุดก็ได้ฟังธรรมจากพระองค์

หัวข้อประเด็น

-อสูรใหญ่โต
-ความศรัทธา
-การเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
-ประสบการณ์ของอสูร

ข้อความต้นฉบับในหน้า

*ร่างกายของสิรินทรานี่ มีอัตภาพใหญ่โต อัครยาจใจ เมื่อได้พบเห็นบุคคลที่มีร่างกายใหญ่มาก โดยมีส่วนสูงถึง ๘,๘๐๐ โยชน์ ระหว่างแขนทั้งสองซ้ายขวา ๑,๒๐๐ โยชน์ ส่วนหนา ๓๐๐ โยชน์ ศีรษะ ๘๐๐ โยชน์ เรียนหน้าใหญ่มากกว่าว่า ๑,๐๐๐ โยชน์ ระหว่างคิ้ว ๒๐๐ โยชน์ วะหว่างคิ้ว ๔๕ โยชน์ คิ้วกว้าง ๒๐๐ โยชน์ ปากกว้าง ๒๐๐ โยชน์ จมูกกว้าง ๑๐๐ โยชน์ ขอบปากกว้าง ๑๐๐ โยชน์ ฝ่ามือฝ่ายหนา ๒๐๐ โยชน์ ข้อมือยาว ๑๕ โยชน์ เมื่ออสุทรทรายูในมหาสมุทร น้ำในมหาสมุทรท่วมเพียงแค่หัวเข่าเท่านั้นเอง เมื่อพระพุทธเจ้าบุตรนั้น อสุทรทรายูได้ฟังกิตติศัพท์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เพราะความที่ตัวเองมีกายสูงใหญ่ จึงคิดว่า ตัวไม่เหมาะสมที่จะมาพบกับพระสมุทธเจ้า แม้ตนเองจะมีจิตเลื่อมใส ใคร่จะได้พบา ก็กล้าจะเข้าเฝ้าพระคิดว่า เรามีกายสูงใหญ่ จะไปต่ำพระพุทธองค์ซึ่งมีพระอรหันต์เต็มมิดเดียว ครั้งจะขามตัวดู พระพุทธเจ้ากอาจเป็นการขาดความจะ เมื่อคิดเช่นนี้ไม่มาเฝ้าพระพุทธเจ้า ทั้งที่มีความปรารถนาอยากจะเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ เพื่อฟังธรรมจากพระองค์ คงได้ฟังเหล่าเทวดาและอสุรรรณา พุทธคุณหนาหูหนักเข้า อสุทรทรายูเกิดศรธาอย่างเปี ยมลั้ง ตั้งใจว่าจะต้องไปเฝ้ารึได้ ถึงกระนั้นก็ยังกลัวอยู่อีกว่าจะกล้าจะกราบพระองค์อย่างไรหนอ เพราะคิดอยู่เสมอว่า ตัวเองมี กายใหญ่โตกว่าผูใดๆ ทั้งหมด คิดไปพลางก็เหาะไปพลางเพื่อมาสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความกังวลจนเผลอเต็มใจต่อพระพุทธองค์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอัศจรรย์ของจอมอุจ จึงบังเกิดให้พระอานนท์ติบแต่งพระแ แผ่นที่บรราม แล้วพระองค์ทรงนั่งบิตพระภาคให้โตใหญ่และสีไสยสนิเดอการของสุรินทราทูผู้มาร่างกายกายขึ้นใหญ่ถึง ๔,๘๐๐ โยชน์ ครับมาถึงสำนักพระพุทธองค์ ตนก็ต้อง พระผู้มีพระภาคเจ้ายามท่อลายของขออสูร จิ้งจั้งใส่ให้พระอานนท์ติบแต่งพระแแทนที่บรรราม แล้วพระองค์ทรงนั่งบิตพระภาคให้โตใหญ่และสีไสยสนิเดอการของอสุรทรายูผู้มาร่างกายกายขึ้น ใหญ่โตมากถึงขนาดนี้ ดังนั้นจึงขอคณอาจท่านคิดว่า ตัวเอง กายใหญ่โตมากว่าใครๆ ทั้งหมด คิดไปพลางก็เหาะไปพลางเพื่อมาสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความกังวลจนเผลอเต็มใจต่อพระพุทธองค์ พระผู้มีพระภาคเจ้ามีอัศจรรย์ของจอมอุจ จึงบังเกิดให้พระอานนท์ติบแต่งพระแ แผ่นที่บรราม แล้วพระองค์ทรงนั่งบิตพระภาคให้โตใหญ่และสีไสยสนิเดอการของอสุรทรายูผู้มาร่างกายกายขึ้น ใหญ่โตมากถึงขนาดนี้ ดังนั้นจึงขอคณอาจท่านคิดว่า ตัวเอง กายใหญ่โตมากว่าใครๆ ทั้งหมด คิดไปพลางก็เหาะไปพลางเพื่อมาสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความกังวลจนเผลอเต็มใจต่อพระพุทธองค์ พระผู้มีพระภาคเจ้ามีอัศจรรย์ของจอมอุจ จึงบังเกิดให้พระอานนท์ติบแต่งพระแ แผ่นที่บรราม แล้วพระองค์ทรงนั่งบิตพระภาคให้โตใหญ่และสีไสยสนิเดอการของอสุรทรายูผู้มาร่างกายกายขึ้น ใหญ่โตมากถึงขนาดนี้ ดังนั้นจึงขอคณอาจท่านคิดว่า ตัวเอง กายใหญ่โตมากว่าใครๆ ทั้งหมด คิดไปพลางก็เหาะไปพลางเพื่อมาสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความกังวลจนเผลอเต็มใจต่อพระพุทธองค์ พระผู้มีพระภาคเจ้ามีอัศจรรย์ของจอมอุจ จึงบังเกิดให้พระอานนท์ติบแต่งพระแ แผ่นที่บรราม แล้วพระองค์ทรงนั่งบิตพระภาคให้โตใหญ่และสีไสยสนิเดอการของอสุรทรายูผู้มาร่างกายกายขึ้น ใหญ่โตมากถึงขนาดนี้ ดังนั้นจึงขอคณอาจท่านคิดว่า ตัวเอง กายใหญ่โตมากว่าใครๆ ทั้งหมด คิดไปพลางก็เหาะไปพลางเพื่อมาสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความกังวลจนเผลอเต็มใจต่อพระพุทธองค์
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More