ข้อความต้นฉบับในหน้า
ผิดอะไรหรือ ทำไมถึงโดนทรมานถึงเพียงนี้” เมื่อรู้
ว่าเพื่อนไม่ได้ทำผิด จึงถามต่อไปว่า “ท่านอาจจะ
รักษาใจของตนเองไม่ให้มีความขุ่นมัวได้หรือไม่”
มัณฑพยดาบสตอบว่า “เพื่อนเอ๋ย เราไม่ได้มีใจอุ่น
มัวหรือขัดเคืองเลย”
ที่ปายนดาบสฟังแล้วรู้สึกชื่นใจ บอกเพื่อน
ไปว่า "เมื่อเป็นเช่นนี้ร่มเงาของผู้มีศีลเช่นท่านเป็น
ความสุขสำหรับเรา แล้วเข้าไปนั่งพิงหลาวอยู่เป็น
เพื่อน ขณะที่หยาดโลหิตที่ออกมาจากร่างกายขอ
งมัณฑพยะดาบส หยดลงถูกตัวของที่ปายนดาบส
สรีระที่ผ่องใสดุจทองก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด แต่
ท่านไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือขยะแขยงแต่อย่างใด
ท่านนั่งพิงหลาวตลอดคืนยังรุ่งโดยไม่ได้สะทก
สะท้านว่า จะถูกจับไปฆ่าพร้อมกันกับเพื่อนของ
ท่าน
วันรุ่งขึ้น พวกราชบุรุษได้กราบทูล
เหตุการณ์นั้นให้พระราชาทรงทราบ แล้วพระองค์
ทรงดำริว่า เราได้ตัดสินลงไปโดยไม่พิจารณา จึงรีบ
เสด็จไปหาตรัสถามที่ปายนดาบสว่า “ดูก่อน
บรรพชิต เหตุไรท่านจึงนั่งพิงหลาวอยู่” ที่ปายน
ดาบสตอบว่า “มหาบพิตร อาตมภาพนั่งรักษา
ดาบสนี้อยู่ ก็มหาบพิตรทรงทราบแล้วหรือว่า
ดาบสนี้ทำผิดหรือไม่ได้ทำผิด จึงได้ลงอาญาอย่าง
นี้” เมื่อทราบว่ายังไม่ได้ทันพิจารณา จึงกล่าวสอน
ว่า “ธรรมดาคฤหัสถ์ ถ้าเป็นคนเกียจคร้านแล้วไม่ดี
พระราชาควรจะพิจารณาก่อนแล้วจึงกระทำ จึงจะ
เป็นที่พึ่งของมหาชนได้”
เมื่อพระราชาทรงทราบว่า
มัณฑพยะ
ดาบสไม่มีความผิด จึงรับสั่งให้ถอนหลาวนั้นออก
แต่พวกราชบุรุษไม่สามารถจะถอนหลาวออกได้
ฝ่ายดาบสทูลพระราชาว่า “มหาบพิตร อาตมภาพ
ถึงความพินาศย่อยยับอย่างครั้งนี้ ก็ด้วยอำนาจ
กรรมที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อน ไม่มีใครถอนหลาวออก
จากตัวอาตมภาพได้หรอก ถ้าพระองค์มีพระราช
ประสงค์จะพระราชทานชีวิตแก่อาตมภาพ ก็โปรด
ให้เอาเลื่อยมาตัดหลาวนี้ให้เสมอหนังเถิด"
พระราชารับสั่งให้กระทำตามนั้น ภายในร่างกาย
ของดาบสจึงมีหลาวติดอยู่ด้วยตลอดเวลา ที่เป็น
เช่นนี้ก็เพราะกรรมที่เคยเอาหนามทองหลางไป
เสียบไว้ที่ก้นของแมลงวันอยู่อย่างนั้น แต่ก็ยังไม่ถึง
กับทำให้มันตาย จะตายต่อเมื่อหมดอายุขัยของมัน
ฉะนั้น จึงทำให้ดาบสนี้ยังไม่ถึงกับตายลงในครั้งนี้
แต่ปลายหลาวก็ยังคงฝังติดอยู่ในร่างกายของท่าน
เรื่อยมา พระราชาทรงกราบพระดาบส ขอให้ท่าน
ทั้งสองโปรดงดโทษ แล้วนิมนต์ให้อยู่ในพระราช
อุทยานเพื่อทำการรักษาแผล และให้ท่านบำเพ็ญ
สมณธรรมอย่างมีความสุขตลอดอายุขัย
เราจะเห็นว่า บาปกรรมแม้เพียงเล็กๆ
น้อยๆ อย่าคิดว่าจะไม่ส่งผล เพราะว่าทุกอย่างที่
เราทำเอาไว้ไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม ได้ถูกบันทึกเอาไว้
ในใจของเราเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอวันให้ผล
เท่านั้นเอง ในอดีตที่ผ่านมานั้นเราไม่รู้ว่าได้ทำบาป
อกุศลอะไรเอาไว้บ้าง ฉะนั้น จงอย่าได้ประมาท
ปล่อยใจไปตามกระแสกิเลสที่รุกคืบเข้ามาในรูป
แบบต่างๆ ควรให้ใจของเราดวงนี้มีแต่ภาพของ
กุศลกรรม เก็บเกี่ยวเอาแต่สิ่งที่ดีงามไว้ให้มากๆ ผล
ของบาปจะได้ไม่มาเป็นอุปสรรคขัดขวางการสร้าง
บารมีของเรา จะมีแต่บุญหนุนนำชีวิตให้ประสบ
ความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไป
พระธรรมเทศนาโดย:
พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
* มก. เล่ม ๕๙ หน้า ๘๓๑