ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องนี้ เพื่อให้ชาวโลกได้ทราบความจริงเกี่ยวกับสิริ แล้วจะได้ทางจเจาะไปถึงต้นเหตุว่า ถ้าจะไม่ให้เดือดร้อนด้วยทุกอย่างนี้อีกต่อไป ต้องไปปราบให้เสดษเป็นต้นเหตุให้ ถ้าปราบเสดษไม่ได้ ทุกแหล่ก็แก้ไม่ได้
มนุษย์ทุกคนมีทุกประจำสิริวงทั้ง ๑๐ ประการนี้เหมือนกัน หลักเสียดไม่ได้ นี้คือความเสดวก ต่างกันที่จะสามารถกัลณฑ์ในตัวได้รสุที่ครับ
เมื่อเรานำธรรมชาติประจำตัวทั้ง ๑๐ ประการนี้ มาคำตรานใครครองบ่อย ๆ และสังเกตอาการที่เกิดขึ้นในตัว ไม่ว่าความหนาว ความร้อน ความมิว ความกระหาย ปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ ก็จะเตือนตัวเองได้ว่า
๑) ถาด๑ ในกายไม่บริสุทธิ์ เรามีกินที่ต้องแก้ไขตัวเอง ล้างกายในตัวให้บริสุทธิ์ ด้วยการรักษาดี ด้วยการเจริญสมาธิภาวนาไท่ง่ ๆ ขึ้นไป เมื่อใจเราอยู่ในบุญอย่างนี้ ถึงธรรมะจะภายในตัวเรายังไม่ชัด แต่เราสามารถเปิดหาทางสู้ภารและเปิดหนทางสู่สุขภารให้ตนเองได้
๒) มนุษย์ทั้งไปไม่มีเวลาทำกวานน้อย เพราะต้องทำงานหาเลี้ยงชีพคน ครอบครัว ถ้าจะให้เวลาทำกวานมาก ๆ จะได้ปราบเสดษง่าย มีทางเดียวคือ "ออกบวช" ซึ่งเป็นโอกาสที่จะนำความรู้ไปเปลี่ยนเป็นสีย เป็นคุณธรรมประจำใจ ด้วยสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ก็คิดเห็นขันเมื่อทำชำนาญแล้ว ก็กลายเป็นปกติเหมือนกับลมหายใจเข้าออกของเรา
๓) ชีวิตของพระภิษุ ขอบินทบาตอาหารจากชาวบ้านไปมือ ๆ หนึ่ง การบิณฑบาตนั่นไม่ได้ปรวนแปรใคร ข้าวแต่ละคำ น้ำแต่ละอึก นมแต่ละอึก ได้มา ด้วยความบริสุทธิ์ ได้มาแล้วพลังงานที่เกิดขึ้นในตัวก็เอาไปใช้ในการทำความเข้าใจในธรรมชาติของสิริ แล้วจะได้ไม่หลงไหลในธรรมชาติ จะได้รับใจสะอัว ทำดี กลับมา เวลาให้ดี กลับตัวในตัวให้บริสุทธิ์ เมื่อเห็นความบริสุทธิ์ในตัว และเห็นความสามารถที่จะช่วยชาวโลกให้บริสุทธิ์ตามมา พระภิษุท่านก็มีชีวิตอยู่ด้วยความสุข ตายแล้วก็มีโจวไปสวรรค์ ไม่ถนทรง เปิดหนทางพระนิพพานให้แก่ตนได้สำเร็จ
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือ วิธีดูตนเองให้ชัดแจนด้วยการ "มองเข้าไปในตน" นั่นเอง..