ข้อความต้นฉบับในหน้า
เราได้บำรุงเลี้ยงไพร่พลไว้มากมาย มีอาวุธ
พร้อมมือ เพราะฉะนั้น เราจึงไม่กลัวท่าน บารมี
๓๐ ทัศ นี้เป็นโยธาของเรา” พระโพธิสัตว์
ตรัสต่อว่า “พยานที่รู้เห็นการกระทำของเรา
ไม่มี แต่พื้นดินอันหาวิญญาณมิได้นี้เป็นพยาน
ของเรา เราได้สร้างมหาทานบารมีไว้ในสมัย
เป็นพระเวสสันดรไง ๗ ครั้ง"
พระองค์ได้เอ่ยอ้างมหาทานบารมีที่
เคยสั่งสมไว้ แล้วทรงชี้นิ้วพระหัตถ์ขวาลงไป
ที่แผ่นดิน ผมและน้ำที่รองแผ่นปฐพีซึ่งหนา
9,000,000 โยชน์ ก็ไหวก่อน จากนั้นมหาปฐพี
งทนา ๒๔๐,๐๐๐ โยชน์ ไหวขึ้น 5 ครั้ง
เหมือนรับรองพระดำรัสของพระองค์ น้ำซึ่ง
เกิดจากอานุภาพแห่งมหาทานบารมีของ
พระโพธิสัตว์ ได้หลั่งล้นท่วมท้นเสนามาร
ทั้งหลาย มหาปฐพีปั่นป่วนกัมปนาท มหาเมฆ
ร้องครีนปานภูเขาจะถล่มทลาย พญามาร
เห็นเช่นนั้น รู้สึกอัศจรรย์ใจ ครั่นคร้ามใน
พระเดชานุภาพ เทพเทวาต่างพากันประโคม
ดนตรี
ย นทัวจักรวาล
ทันใดนั้นเอง อสนีบาตฟาดเปรี้ยงลงมา
หมู่มารทั้งหลายต่างตื่นตระหนกตกใจกลัว
บุญญานุภาพของพระมหาบุรุษ แม้ช้าง
ศิรีเมขล์ก็ไม่อาจยืนต้านทานกระแสน้ำได้ ถึง
กับคุกเข่าล้มลง มานั่งบนคอช้างศิริเมฆส
ตกลงมาที่แผ่นดิน แม้พวกเสนามารทั้งหมด
างกระจัดกระจายไปในทิศใหญ่ หน้อย
เหมือนว่าแกลบที่กระจายไปทั่ว พญามาร
เกรงพระเดชาบารมี รับหลบหนีไปซ่อนเร้น
ด้วยความเสียใจ ที่พ่ายแพ้พระบรมโพธิสัตว์
ถึงกระนั้นก็อดชมเชยพระบรมโพธิสัตว์ไม่ได้ว่า
“บุคคลใดในโลกและเทวโลก ที่จะเสมอ
ด้วยพระองค์ไม่มี พระองค์จะได้ตรัสรู้เป็น
พระพุทธเจ้า ผู้มีอานุภาพ มีเดชครอบงำ
สรรพสัตว์ทั้งหลาย จะขนหมู่สัตว์ผู้ชาญ
ฉลาดให้ข้ามพ้นโอมะได้ บรรลุฝั่งมหา
นฤพานอันเกษมในคราวนี้แน่นอน"
วันวิสาขบูชา วันบูชาพระผู้พิชิตมาร
อันที่จริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของ
เราชนะมารและเสนามาร ตั้งแต่ยังไม่ได้
ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อทรงชนะมารแล้ว
ทรงบำเพ็ญเพียรโดยมิย่อท้อ ในเวลา
ปฐมยาม ทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
ระลึกชาติในหนหลังได้ว่า ในชาติก่อน
พระองค์เกิดที่ไหน เป็นอะไร มีชื่อและโคตร
อย่างไร เป็นต้น ในเวลามัชฌิมยามทรง
บรรลุจุตูปปาตญาณ การจุติและอุบัติของ
สัตว์ทั้งหลายว่า สัตว์นั้นท่ากรรมอะไร ตาย
แล้วไปเกิดที่ไหน ในเวลาปัจฉิมยามทรงบรรลุ
อาสวักขยญาณ ด ตอริยสัจ ๔ เป็นพระ
สัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว
ได้ชื่อว่าเป็นพระอนันตชิน ผู้มีชัยชนะตลอด
กาล
ความมหัศจรรย์หลายอย่างได้บังเกิดขึ้น
คือ โลกันตนรกกว้าง ๔,๐๐๐ โยชน์ ใน
ระหว่างจักรวาลทั้งหลาย ไม่เคยสว่างแม้ด้วย
แสงอาทิตย์ ๗ ดวง กลับมีแสงสว่าง
มหาสมุทรลึก ๘๔,๐๐๐ โยชน์ ที่เคยมีรสเค็ม
กลายเป็นน้ำจืด แม่น้ำทุกสายพร้อมกันหยุด
ไหล อัจฉริยภูตธรรมมากมายได้ปรากฏขึ้น
พวกเทพยดาเห็นพญามารแตกพ่ายไป ต่าง
ชื่นชมแซ่ซ้องสาธุการ กล่าวสรรเสริญพระคุณ
โลกให้ปลดแอกจากการที่ต้องตกเป็น
บ่าวเป็นทาสของพญามารเข้าถึงอิสรภาพ
อันเป็นนิรันดร์ ได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมา
สัมโพธิญาณ แล้วทรงแนะนำสรรพสัตว์
ทั้งหลาย ทั้งมนุษย์และเทวดาให้บรรลุ
ธรรมาภิสมัยตามพระองค์ไปด้วย ทำให้
โลกที่เคยมีดมิดด้วยอวิชชามายาวนานถึง
• พุทธันดร ได้รับความสว่างไสวด้วย
แสงแห่งธรรมอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อเป็นการรำาลิกถึงพุทธคุณอันไม่มี
เป็นการใหญ่ว่า “พระสิทธัตถะเป็นมหาบุรุษที่ ประมาณของเอกบุรุษของโลกและจักรวาล
ชนะพญามารได้ ควรที่ชาวโลกจะน้อมเศียร
สงกราบบูชาพระองค์ ผู้เที่ยงแท้ที่จะเป็น
พระบรมศาสดาของมนุษย์และเทวาทั้งหลาย”
การชนะข้าศึกคือพญามารในครั้งนั้น
ถือเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ กล่าวได้ว่าเป็น
ชัยชนะที่แท้จริง เพราะรบกับตัวจริง คือ
พญามาร ซึ่งมีอานุภาพมาก สามารถบังคับ
บัญชาได้ทั้งมนุษย์ เทวดา พรหม อรูปพรหม
เขาอยู่เหนือวิสัยที่ปุถุชนคนธรรมดาจะไปถึง
แม้ด้วยความคิด แต่พระพุทธองค์ก็สามารถ
พิชิตได้ จึงได้รับการเฉลิมพระนามว่า พระ
ผู้พิชิตมาร
สันติภาพโลกเป็นจริงได้
ถ้ามนุษยชาติเข้าถึงสันติสุขภายใน
การที่องค์การสหประชาชาติได้ให้
ความสำคัญกับวันวิสาขบูชา และพร้อมใจกัน
กําหนดเอาวัน ของทุกปี ให้เป็นวันสันติภาพ
โลกนั้น นับเป็นสิ่งที่สมควรอย่างยิ่งแล้ว
เพราะกล่าวได้ว่า เป็นวันที่มหาบุรุษเอกของ
พวกเราทั้งหลายในฐานะเป็นพุทธบริษัท ควร
พร้อมใจกันมารำลึกถึงพุทธคุณอันยิ่งใหญ่
ที่พระองค์ทรงประกาศชัยเหนือพญามาร
ด้วยการเข้าวัดปฏิบัติธรรม ท่าทาน รักษาศีล
และสวดมนต์ เจริญสมาธิภาวนา เทียบูชา
พุทธคุณทั้ง เป็นอามิสบูชาและปฏิบัติบูชา
หากมนุษยชาติเริ่มดำรงตนบนความเป็นผู้ให้
คือให้วัตถุสิ่งของ รู้จักเสียสละ ให้อภัยต่อกัน
ให้ความรู้ที่ดีๆ แก่กัน ให้ความปลอดภัยและ
ความมั่นใจแก่กันด้วยการเริ่มรักษาปกติภาวะ
ของตัวเองโดยอยู่ในกรอบของศีล ๕ และ
หมั่นนั่งสมาธิกลั่นใจให้สะอาดบริสุทธิ์ผ่องใส
อยู่เสมอ จนกระทั่งเข้าถึงที่สุดแห่งสันติสุข
ภายใน คือพระธรรมกาย เชื่อได้ว่า สันติภาพ
โลกที่ทุกคนใฝ่ฝันหาจะกลายมาเป็นจริงอย่าง
แน่นอน..... เพราะสันติภาพของโลกต้องเริ่ม
จากสันติสุขภายใน สันติสุขภายในเกิดจากใจ
ที่หยุดนิ่ง