คำสอนของหลวงพ่อตอบปัญหาเกี่ยวกับมิตรชั่ว : หน้า 26/50

2 หลวงพ่อตอบปัญหา พระภาวนาวิริยคุณ ถ้าหากละโลกไปในขณะที่ใจขุ่นมัว เขาย่อมมีนรก เป็นที่ไปแน่นอน เพราะฉะนั้นในเรื่องวินิจฉัยของ คนว่า อะไรดี อะไรชั่ว อะไรผิด อะไรถูก อะไร เป็นบุญ อะไรเป็นบาป เราต้องวินิจฉัยให้ถูกให้ได้ ถ้าวินิจฉัยผิดละก็ ชาตินี้คงเอาดีไม่ได้ ส่วนที่เรียกว่า “เพื่อนชั่ว หรือมิตรชั่ว" นั้น หมายถึง เพื่อนที่มีวินิจฉัยเสีย เช่น มีความเห็น ผิดว่า ท่าดีได้ดีมีที่ไหน ท่าชั่วได้ดีมีถมไปเป็นต้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า ห้ามคบมิตรชั่ว ซึ่งบางทีทรงใช้คำว่า “มิตรพาล” หรือว่า “คนพาล” เพราะถ้าหากไปคบกับเพื่อน ประเภทนี้เข้า เราก็จะติดนิสัยไม่ดี คิดวินิจฉัยเสียๆ มาจากเขา จากนั้นเราก็คิดร้ายๆ พูดร้ายๆ ทำร้ายๆ ตามเขาไปด้วย พระพุทธองค์จึงทรงสั่ง นักสั่งหนาว่า ถ้าอยากจะให้ชีวิตมีแต่ความเจริญ รุ่งเรือง บันไดชีวิตขั้นแรกของมนุษย์คือ ห้ามคบ คนชั่วเป็นมิตรเด็ดขาด เมื่อใครไปคบคนชั่วเป็นมิตร ความเป็น มนุษย์ของเขาก็จะสิ้นสุดลง แล้วความเป็นสัตว์ ความเป็นเปรต ความเสื่อมเสียต่างๆ นานา จะ ไหลเข้ามาแทนที่ อนาคตของเขาย่อมมืดมน อย่างแน่นอน ยกตัวอย่าง คุณพ่อคุณแม่ไม่เคย บอกเลยว่า มีแหล่งเที่ยวกลางคืนอยู่ที่ไหนบ้าง แต่เจ้าเพื่อนตัวลึกลับบอกเราหมด แถมยังอาสา พาไป ดีไม่ดีออกเงินให้ก่อนอีกด้วย คืออ่อย เหยื่อไว้ก่อน แล้ววันหลังเราก็ต้องไปออกเงินให้ เขาบ้าง แหล่งเลวร้าย หรืออบายมุขทั้งหลายใน โลกนี้ จึงมีเพื่อนชั่วเป็นต้นเหตุ เพราะฉะนั้น นอกจากจะสอนลูกหลานให้ รู้จักเลือกคบแต่คนดีแล้ว ยังต้องสอนอีกด้วยว่า วิธีที่จะดูว่าใครเป็นคนชั่ว ใครเป็นคนดีนั้น เขาดู กันอย่างไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราตรัสเอาไว้ว่า คนชั่ว คือ คนที่ชอบคิดชั่ว ชอบพูดชั่ว ชอบทำ ชั่ว เป็นปกติ ส่วนคนดี คือ คนที่ชอบคิดดี ชอบพูดดี ชอบท่าดี เป็นปกติ ในชีวิตประจำวันของเราเมื่อเอาเข้าจริงๆ ปรากฏว่า เพื่อนที่เราคบอยู่แต่ละคนนั้น ในตัว ของเขายังมีความชั่วบางอย่างอยู่ แต่ว่าไม่มากนัก เพราะถ้าเป็นคนเลวขนาดที่เห็นได้อย่างชัดเจน เราก็คงจะหนีออกห่างได้ทัน อยู่ใน 3 ydd 2 หลวงพ่อตอบปัญหา พระภาวนาวิริยคุณ เขาจะเข้ามาหาด้วยความคุ้นเคย แล้วดึง คิดหาทางแก้ไขตัวเองได้ เพราะฉะนั้นตัดไฟเสีย ..เมื่อใครไปคบคนชั่วเป็นมิตร เราให้ตกต่ำจนกระทั่งเงยหัวไม่ขึ้น ไม่มีเวลาที่จะ ความเป็นมนุษย์ของเขาก็จะ ตั้งแต่ต้นลมได้แหละดี เพื่อนคนไหนที่เราเห็นว่า สิ้นสุดลง แล้วความเป็นสัตว์ เขาทำสิ่งไม่ถูกไม่ควร เช่น ไปจมอยู่ในอบายมุข ความเป็นเปรต ความเสื่อมเสีย กลางคืน หรือใช้เวลาไม่เหมาะไม่สมต่างๆ นานา ต่างๆ นานา จะไหลเข้ามาแทนที่ ที่หนีออกห่างไม่ทัน เพราะว่าเป็นประเภท ถึงดีกึ่งแล้ว ซึ่งเพื่อนประเภทนี้นี่เองที่จะกลาย ไม่ว่าจะจมอยู่ในวงเหล้า วงการพนัน ชอบเที่ยว พอเห็นแววอย่างนี้ รีบห่างๆ เสียก็แล้วกัน ที่ใช้คำาว่าห่างๆ เพราะบางทีรับราชการ อยู่ด้วยกัน หรือทำงานบริษัทเดียวกัน ห้อง ทำงานก็ห้องเดียวกัน ไม่รู้จะหนีไปที่ไหน ก็คงได้ แต่คอยระวังเนื้อระวังตัวให้ดี อย่าไปสนิทสนม เป็นพาหะ เหมือนอย่างกับนกที่บินไปบินมาใน คุ้นเคยกับเขา ถ้ายังพอเดือนกันได้ รับไปเดือน อากาศ ไม่ว่าจะเป็นนกกระจอก นกพิราบ หรือ นกอะไรก็ตาม เป็นตัวพาหะพาเชื้อไข้หวัดนกไป ยังเค้าเปิดเล้าไก่ ทำให้เป็ดไก่เหล่านั้นติดโรค ไข้หวัดนก จนต้องล้มตายลงเป็นจํานวนมาก เพื่อนที่กึ่งดีกิ่งเลว มีเชื้อพาล มีเชื้อชั่วอยู่ ก็เหมือนกัน เรามักจะดูไม่ออก แล้วบางทียังมา ในรูปของความหวังดีเสียอีก ยกตัวอย่าง พอเห็น เราทำงานเครียดๆ ก็เข้ามาชวนไปดื่มเหล้าเพื่อ คลายเครียด ทั้งที่ตามธรรมดาตัวเขา เองก็ไม่ค่อยดื่มเท่าไร เวลาที่เรา เกิดความเครียดขึ้นมามากๆ อาจทำให้พลาดไปกับเขาได้ ให้เขาเลิกเสีย แต่ไปเตือนนะ ไม่ใช่ไปตาม แล้ว คุณจะเป็นคนที่โชคดี