ข้อความต้นฉบับในหน้า
อุ้งคีฑาน: ตำานพระธาตุทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 195
พุทธประเพณีแห่งอัญคราชฎู
เมื่อพระโพคมุทธองค์ประทับอยู่ในเดซวมหาวิahrenในกรุงสาตดี แคว้นโกศล
ในขณะนั้นพระองค์ทรงเห็นด้วยทีพยัป๊ว่ามีพระทุงองค์ในกลาดก่อนถึงสามพระองค์
(พระกุษณะ พระโหนดมะ และพระกัสสะสะ)ได้เคยเสด็จมาประทับที่ดินแดน
สุวรรณภูมิ และในระหว่างที่เสด็จมานี้ได้โปรดรับสั่งไว้ว่าหลังจากที่
พระพุทธเจ้าทั้งสามพระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วให้นำอัฐิธาตุฃมาประดิษฐ์ฐาน
ณ ที่แห่งนั้น เมื่อพระโพคมุทธองค์ทรงเห็นพระพุทธประเด็นนั่นแล้ว ทรงแย้มพระโอษฐ์
ในขณะนั้นพระอานนท์ที่เป็นพระอรหันต์มิทราบเหตุผล จึงได้ถาม
พระพุทธองค์ธิบายเหตุผลที่ทรงแย้มพระโอษฐ์และมีวิตามิว่าจะเสด็จไปยังดินแดน
สุวรรณภูมิพร้อมกับพระอานนท์ จึงทรงผักทั้มพลผันแดนที่ส่งพระอาทิตย์ย่มอุณรัจ
เสด็จด้วยพระลิลาเหาะมาทางทิศตวันออกและหยุดที่หนองค้นแทนเสื้อผ้า เมื่อพระพุทธ-
องค์ดดพระเนตรแลเห็นแผนด้านหนึ่งแล้ว จึงทรงแย้มพระโอษฐ์ พระอานนท์ได้
ลูกถามถึงที่มาแห่งการแย้มพระโอษฐ์นี้อีกครั้ง
พระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ด้วยอนาคตตั้งสัญญาณว่า จะมีเหตุการณ์บังเกิดขึ้นใน
อนาคตเบื้องหน้าในนี้นั่นความเสื่อมและความเจริญ
วีเนหลด และวีเนเพล
หลังจากทรงพยากรณ์แล้ว พระพุทธองค์เสด็จต่อไปยังโพนิจเวียงจันทร์ (Pon Cik
Viangnua) ที่ซึ่งมีพุทธานุสรามว่า “ปัพวา” (Pabbhāra) ได้แสดงกายเป็นชิขา
____________________________________________________________________________________
6 สันนิษฐานว่านั้นคือ นครเวียงจันทร์ (พิเศษ 2537: 6)
7 เชื่อกันว่าคือบ้านโพนจิก ตำบลพระโค อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ซึ่งปัจจุบันเป็นที่
ตั้งของโพนจิกเวียงจันทร์และวัดภูวนา พระอจ. (เจติย์)องค์ดังวัดทั้งสองมีอายุในสมัยล้านช้าง
(รว่าพุทธตระวรรณที่ 21) (คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ 2542: 101-102)