ข้อความต้นฉบับในหน้า
ภูเวียน
หลังจากนั้น พระพุทธเจ้าเสด็จไปประทับยังภูเวียน16 (Bhu Ku Vian Hill) รง แผ่นพรรควนังกสี่ไปยังพื้นที่พิพทบาดาลแห่งนาค ครั้งนั้น นาคนามว่า "สุวรรณ" เห็นพระ ฉัพพรรณวัศสี ลีพูดออกมาจากเมืองบาดาล โผล่ยืนขึ้นสู่ยอดคี สุโปลโดยบังทุน ควันพิษจนครอบครุลภูเวียน แสดงฤทธิ์ทายกับพระพุทธองค์ ทางฝ่ายพระ พุทธองค์ทอดพระเนตรดังนั้น จึงทรงเข้าโกษสนเป็นบ่วงเปลวไฟขวางออกไป ทำให้ สุวรรณนาถูกด์ร้างราดไปแม่น้ำป่าวีวัน (Pu Vian River) เปล่าไฟยังให้มาลามไปยัง นครแห่งพุทธนาถที่ชื่อว่า ปูโดปะะ (Pudhopa-pā) หล่านาคทั้งหมดได้โจนทะยาน ออกจากบาดาล พุ่มเข้าทำการประลองูกฏีกับพระพุทธองค์ แต่ในที่สุดพระพุทธองค์ ทรงปราบพยศของนาคเหล่านั้นได้หมด และตรัสเทคน่าให้ดั่งอยู่ในใตตรสวนคณะ ส่งผล ให้คนดูเหล่านั้นกลับกลายเป็นผู้บูบิอพระรัตนตรัยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ดอยนั่นกังอี้
หลังจากที่เสด็จผ่านภูเวียนแล้ว พระพุทธองค์เสด็จเดินทางต่อไปยังดอย น่านกังอี้ (Nanda Kang Hee Hill) เป็นที่อาศัยของยักษ์นิหน้าหนว่า "น่าน" ในครั้งนั้นมีพยานาคเจ็ดเสียบว่า "ศรีสัตตะ" (Srisatta) ลูบไหล่พระพุทธองค์รง ประทับรอยพระบาทที่ดอยนั่นนกังอี้ พระพุทธองค์ก็ได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่ นั้นและทรงยิ้มพระโอษฐ์ เมื่อพระอานนท์ทูลถามด้วยความสงสัยในเหตุการณ์ จึงตรัส
16 สันนิษฐานว่าน่ือ ภูพาน ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี นนภูพานมี พระพุทธบาบบ่น (พายุ 2533: 47; พิเศษ 2537: 7; คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและ จดหมายเหตุ 2542: 54-55).
17 คืแเมืองหลวงพระบางในปัจจุบัน (พิเศษ 2537: 7)