ข้อความต้นฉบับในหน้า
อ้างอิงคำน่าน: ตำนานพระธาตุทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 199
หลังจากพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน สุรีย์ภุมาจะแกล้งเป็นชัชราชย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองร้อยเอ็ดประตู จะเป็นที่ทำพระพุทธศาสนากลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งดังเช่นครั้งพุทธกาล และเมื่อสิ้นพระชนม์ไปจะกลับมาเกิดอีกครั้งเป็นพระยามหิทธรรมวงศ์ทรงครองบูรพาขอรึอีกรอบ และจะทรงแต่งตั้งเกษตรกรผู้ยิ่งใหญ่ให้เป็นนักษัตรแห่งชันตู่ปลกครองหงษ์คันแท้สีเน่า พระยาสุธรรรมซึ่ได้บรรจุพระอุธรคุตไว้ที่เมืองกบณศรีหรือกาฬพาา และพระองคะจะจรรโลงพระพุทธศาสนาของสเกตรนคร หรือ เมืองร้อยเอ็ดประตู ที่เสื่อมลงให้กลับมาเพื่อฟื้นคืน แต่ในอนาคตมุนครนจะไม่สามารถมีอาราธนได้ก่อน จะเป็นเพียงรัฐหนึ่งของประเทศที่มีอำนาจมากกว่า
เมืองหนองหานหลวง
หลังจากรัชพลายากรณ์เช่นนั้นแล้วพระพุทธองค์กิจผินพระทักตรไปยัง อินปุจา-นคร13 และ เมืองจุฬนิพรหมตตะ (Cumajbrhamadatta) และทรงพระดำเนินต่อไปยังเมืองหนองหานหลวง14 ในระหว่างทางพระพุทธองค์เสด็จผ่านแม่น้ำที่มีมนต์คามว่า “โขนะ” อาณัยอยู่และดำรงชีวิตด้วยการจับปลาเป็นอาหาร ในอดีตก่อนหน้านี้นั่นคนนี้เป็นพระฎีกิบพระเจ้าสุโขนทะผูเป็นพุทธบิดา เมื่อทราบเช่นนั้น พระพุทธองค์ทรงมีพระเมตตาตรัสเทสนาคำให้เข้าใจในเรื่องพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธ พระธรรมห พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง และให้ตั้งอยู่ในไตรสรณคมน์นี้ ด้วยบุญกุศลนี้เอง ทำให้นาคได้บังเกิดกลายเป็นทวตุรโขนทะในสวรรค์ชั้นดุสิตในปัจจุบันแม่น้ำนี้ถูกเรียกกว่า แม่น้ำงุ (Nam Pung)
พระพุทธองค์เสด็จมาถึงเมืองหนองหานหลวง พระราชาสุรวรรณมิงคาร (Suvan-