ข้อความต้นฉบับในหน้า
แหล่งตกปลาและล่าสัตว์ของทหารโรมันที่พักตั้ง
ค่ายบริเวณนั้น ชื่อ “Strateburgum” หมายถึง
เมืองแห่งถนน (City of Roads) ที่มีชื่อเช่นนี้ก็
เพราะว่าเป็นชุมทางของถนนหลายๆสายในยุโรป
มาบรรจบกัน จากนั้นชื่อเมืองจึงค่อยๆกลายมาเป็น
Strasbourg ชื่อในภาษาเยอรมันซึ่งมีความหมาย
เดียวกัน
ด้วยความที่เป็นรอยต่อระหว่างฝรั่งเศสกับ
เยอรมัน จึงถูกสองประเทศนี้ผลัดกันเข้าครอบ
ครองมาโดยตลอด อารยธรรมของทั้งสองชาติจึง
มีอิทธิพลต่อชีวิตความเป็นอยู่ การสร้างอาคาร
บ้านเรือน ประเพณีวัฒนธรรม งานศิลปกรรม
ภาษาที่ใช้ ตลอดจนถึงอาหารการกินของชาว
เมืองจึงมีอารยธรรมของทั้งโรมัน ฝรั่งเศส และ
เยอรมัน ผสมผสานกลมกลืนหลอมรวมเป็นรูป
แบบเฉพาะตัว
สตราสบูร์กไม่ใช่เมืองสำหรับผู้หวังความ
สนุกสนาน ความตื่นเต้นเร้าใจจากการผจญภัย
แต่เป็นเมืองสุดแสนน่ารักสำหรับผู้มาผ่อนคลาย
ดื่มกับบรรยากาศอันงดงามชวนฝันประหนึ่ง
เดินอยู่ในฉากของเทพนิยาย มีสถานที่น่าสนใจที่
ต้องไปเยือนให้ได้เช่น มหาวิหารนอตเตรอะดาม
เปอติ๊ด ฟร็องส์ สะพานปง โกแวรคและ ปง แซงต์
มาแตงและเขื่อนบาราจ วูบอง นอกจากนี้ยังมี
อาคารเก่าแก่ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกกว่า
๓๐๐ แห่ง เพราะคุณค่าของสถาปัตยกรรมเหล่านี้
เอง สตราสบูร์กจึงได้รับการประกาศให้เป็นมรดก
โลกในปี ๑๙๘๘ จากองค์การยูเนสโก
มหาวิหารนอตเตรอะดาม (Cathdrale de
Notre-Dame ) สร้างเมื่อ ค.ศ.๑๑๙๐-๑๔๓๙ สูง
๑๔๒ เมตร เป็นสิ่งก่อสร้างในยุคกลางที่สูงที่สุด
และเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์กอธิคที่สวยที่สุดแห่ง
หนึ่งของยุโรป สร้างจากหินทรายสีชมพูที่สลัก
เสลาอย่างอ่อนช้อยวิจิตรงดงาม สะท้อนแสงสีทอง
ของดวงตะวันเป็นสีส้มอมชมพูระเรื่อทาบทา
ท้องฟ้าสีน้ำเงินกระจ่างใสเป็นภาพที่งดงามที่สุด
ภายในมหาวิหารตกแต่งอย่างประณีต
สวยงามด้วยหน้าต่างกระจกสีที่เรียกว่า rose window