ฝันในฝัน วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน ธันวาคม พ.ศ.2548 หน้า 42
หน้าที่ 42 / 76

สรุปเนื้อหา

เรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ประสบปัญหาหนี้สินมหาศาลจากการทำธุรกิจ จนต้องเผชิญกับความลำบากทั้งในเรื่องการเลี้ยงดูครอบครัว ภรรยาที่ต้องดูแลลูกที่มีพัฒนาการช้า และการหาทางออกให้กับปัญหาด้านการเงิน เขาต้องทำงานหนักหลากหลายอาชีพเพื่อให้ครอบครัวอยู่รอด และต้องต่อสู้กับความทุกข์ที่เกิดจากหนี้สินจนต้องปิดร้าน ในที่สุดก็ได้มีโอกาสเข้าไปที่วัดและพบแนวทางในการสร้างความหวังใหม่

หัวข้อประเด็น

-ปัญหาทางการเงิน
-ความทนทานและการต่อสู้
-การดูแลครอบครัว
-ความเชื่อและการทำบุญ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

Dream in Dream ฝันในฝัน ร้านต้นแหล่งมาด้วยเงินเชื่อเหมือนกัน ทำให้ผมติด หนี้เงินเชื่อด้วยปริมาณที่สูงมาก จนร้านต้นแหล่ง เขาไม่ยอมให้สินค้าผมมาขายอีกแล้วครับ จากนั้น ผมก็ลำบากสุดๆ ตกอยู่ในสภาพ ของผู้มีหนี้สินท่วมท้น เป็นล้าน ผมมีหนี้สูญก็เยอะ สินค้าก็ขายไม่ได้ รายจ่ายก็ทับทวี ผมมีภรรยา และลูกเล็กๆ อีก ๕ คน ที่ยังต้องกิน ต้องเรียน แย่ไปกว่านั้นก็คือ ภรรยาของผม ไม่สามารถ ออกไปช่วยทำงานนอกบ้านได้เลย เพราะต้องคอย ดูแลลูกสาวคนแรกอย่างใกล้ชิด เพราะเขามี พัฒนาการช้า เป็นเด็กปัญญาอ่อนครับ ในบางครั้ง เขาจะโมโหร้าย โดยที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ จะทำร้าย ตัวเองและผู้อื่นโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้ทำให้ ผมและภรรยาทุกข์ใจมากมาจนถึงทุกวันนี้ ความอัตคัดของครอบครัวเราทวีความ รุนแรงขึ้น ถึงขนาดต้องให้ลูกๆ ขอทุนการศึกษา เล่าเรียนกันเองซึ่งบางคนขอไม่ได้ก็ต้องดิ้นรนหาค่า เทอมมาจ่าย แต่เนื่องจากผมไม่รู้ว่าจะเอาเงินมา จากทางไหน จึงให้ลูกเข้าเรียนไปก่อน และก็ยื้อ การจ่ายค่าเทอมออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลูกจะ สอบอยู่แล้ว ทางโรงเรียนจึงแจ้งมาว่า หากไม่จ่าย ค่าเทอม ลูกของคุณก็จะไม่มีสิทธิ์สอบ ผมจึง จำเป็นต้องไปกู้ยืมมาจ่ายครับ กระทั่งค่ารถที่จะเดินทางมาวัดครับ จึงได้ขออาศัย ติดรถเขามา พอมาแล้วผมก็รู้สึกอยากจะทำบุญมาก พี่กัลยาณมิตรที่เขาชวนผมมา จึงบอกกับผมว่า ถ้า อยากสร้างพระจริงๆ จะให้ยืมตังค์ก่อนก็ได้ ผมก็ ตัดสินใจสร้างทันที โดยยืมเงินเขาก่อน ซึ่งหลังจากนั้น พี่คนนี้เขาก็จึงชวนผมไป ทำงานที่โรงงานบรรจุน้ำดื่มกับเขา ผมต้องทำ ทุกอย่าง อย่างหนักอึ้งเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงทุกชีวิต ในครอบครัวที่รอคอยผมอยู่ และก็ต้องพยายาม หาเงินมาใช้หนี้ธนาคาร แต่เงินเพียงแค่นี้ไม่พอ หรอกครับ จากนั้นอีกไม่นานผมจึงได้ลาออก และ ก็ไปทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง ทั้งๆ ที่ผมเองก็ไม่ เคยทำมาก่อนในชีวิต แต่ก็ไม่มีหนทางเลือกอื่นเลย คิดแต่ว่าหากมีอะไรที่พอจะเป็นเงินได้ ก็ต้องทำ ไปก่อน ดีกว่าอดตายกันหมด ค ผมยอมรับว่าผมลำบากมากที่สุด ต้องเข้า งานตั้งแต่ 6 โมง เลิก ๕ โมงเย็น อยู่ท่ามกลาง เปลวแดดอันร้อนระอุ เหงื่อท่วมโทรมกาย ตอน ฝนตกก็ต้องตากฝน ผมต้องฝืนทนทำอยู่ถึง ปี จนสุขภาพเริ่มย่ำแย่ ทำงานต่อไปไม่ไหว ผมจึงขอ ลาออกอีก ซึ่งตอนนั้น ธนาคารก็ได้แจ้งมาว่าจะมา ยึดที่ดินของผมที่จำนองไว้ทั้งหมด เพราะผมไม่มี เงินใช้หนี้เขาสักที ต่อมาร้านของผมขายของไม่ได้เลย จนกระทั่ง ซึ่งตอนนั้นก็ต้องยอมรับทั้งน้ำตาแหละครับ เราต้องตัดสินใจปิดร้านในที่สุด จากนั้นผมได้มี มีเพียงภรรยาเท่านั้นแหละ ที่คอยให้กำลังใจ แต่ โอกาสได้ไปฟังเขาพูดอธิบายเรื่องการสร้างพระ- หากคิดอีกอย่างหนึ่ง จะนับว่าเป็นโชคดีของผมก็ได้ ธรรมกายประจำตัวที่หาดใหญ่ในปี ๒๕๔๐ ทำให้ ปรากฏว่า ที่ดินที่ธนาคารเขายึดไป มันมีมูลค่าสูง ผมเกิดความรู้สึกอยากสร้างมากแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง กว่าเงินที่ผมกู้มา ธนาคารจึงได้ให้เงินกับผมเพิ่มอีก ผมจึงได้แต่เขียนใบจองไว้โดยที่ยังไม่มีเงินจ่ายทำบุญ ๔ แสนบาท หลังจากยึดเอาที่ไปแล้ว พอได้เงินมา และก็เก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจถึง ๒ ปีเต็ม จนกระทั่งถึงปี ๒๕๔๒ จึงมีคนชวนผมมา วัดพระธรรมกาย ผมเองก็อยากไป แต่ก็ไม่มีแม้ ปั๊บผมก็ดีใจ ซึ่งประจวบเหมาะกับตอนนั้นเป็นช่วง เวลางานกฐินสร้างมหาวิหารหลวงปู่ฯ ที่วัดพระ ธรรมกายพอดี ผมจึงตัดสินใจเอาเงินจำนวน S ๔๐
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More