ข้อความต้นฉบับในหน้า
บนสวรรค์ มาตลีเทพบุตรรับเทพโองการแล้ว ก็
เทียมราชรถลงไปยังมนุษยโลกทันที เวชยันตราชรถ
ได้มาปรากฏพร้อมกับมณฑลของพระจันทร์ แต่
ทอแสงสว่างไสวอยู่คนละด้าน ซึ่งขณะนั้น พระเจ้า
เนมิราชทรงรักษาอุโบสถศีลในวันเพ็ญ พระองค์
ทรงเปิดสีหบัญชรด้านทิศตะวันออก ประทับอยู่ใน
พระตำหนัก ทรงพิจารณาศีลของพระองค์ที่ไม่มี
ด่างพร้อยแม้แต่น้อย ฝ่ายชาวเมืองต่างสนทนา
ปราศรัยกันอย่างมีความสุข เมื่อมองเห็นเทวรถ
เคลื่อนเข้ามาใกล้ก็ชี้ชวนกันดูด้วยความตื่นเต้น
เมื่อมาตลีได้จอดราชรถที่พระสีหบัญชร กล่าวเชื้อ
เชิญว่า “ข้าแต่มหาราช ขอพระองค์เสด็จมาทรง
ราชรถคันนี้เถิด เทพเจ้าชาวดาวดึงส์ปรารถนาจะ
พบเห็นพระองค์ซึ่งขณะนี้กำลังรอที่สุธรรมาเทวสภา
เนมิราชทัวร์นรก
พระเจ้าเนมิราชทรงยินดีว่าจะได้เห็นเทวโลก
ด้วยตาเนื้อ จึงรับสั่งกับมหาชนว่า พระองค์จะไป
เทวโลกไม่นาน ขอให้มหาชนทั้งหลายอย่าได้
ประมาท ให้หมั่นทำความดีให้มาก ตรัสดังนี้แล้ว
จึงเสด็จขึ้นสู่ยานทิพย์ ได้ตรัสบอกมาตลีว่า “เรา
จะไปเทวโลกอยู่แล้ว ก่อนไปเราถือโอกาสขอไปชม
เมืองนรกก่อน อยากรู้คติของผู้ทุศีลว่าเป็นอย่างไร
จะได้นำกลับมาเล่าให้พสกนิกรฟัง เพื่อจะได้ตั้งใจ
ทำบุญล้วนๆ ไม่ทำบาปอกุศลกันต่อไป”
มาตลีก็ไม่ขัดข้อง เมื่อเวชยันตราชรถ
เคลื่อนออกจากเมืองแล้ว ได้เนรมิตนรกขุมต่างๆ
เช่นเนรมิตแม่น้ำชื่อเวตรณีให้ได้ทอดพระเนตร
แม่น้ำสายนี้เดือดพล่านเปรียบเหมือนเปลวเพลิง
นายนิรยบาลในนรกถือศัสตราวุธ หอก ดาบ ไม้ค้อน
เป็นต้น ซึ่งลุกโพลงด้วยไฟ เที่ยวประหาร ทิ่มแทง
โบยตีสัตว์นรก พวกสัตว์นรกทนไม่ไหวต่างตกลง
ในเวตรณีนรก พระเจ้าเนมิราชทรงสะดุ้งตกพระทัย
เพราะโลกมนุษย์ไม่มีการลงทัณฑ์ทรมานโหดเหี้ยม
อย่างนี้ จึงตรัสถามบุพกรรมของสัตว์นรกว่า
พวกเขาทํากรรมอะไรไว้
มาตลีทูลว่า “สัตว์เหล่านี้ สมัยที่ยังเป็นมนุษย์
ชอบเบียดเบียนผู้อื่น เที่ยวทรมานและรังแกสัตว์
๑๒