ข้อความต้นฉบับในหน้า
มูลนิธิธรรมกาย
พระราชภาวนาวิสุทธิ์
ยเหลือผู้ประสบภัย
ล่าสุดเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
จากการเกิดพายุและร่องความกดอากาศต่ำ พัด
ผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักมาก
จนเป็นผลให้พื้นที่ในจังหวัดน่านเกิดน้ำท่วม
ฉับพลัน เป็นบริเวณกว้างกินพื้นที่กว่า
5 หมู่บ้าน
ใน ๑๑ อำเภอ มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บและ
สูญหายอีกหลายสิบราย ถนนพังเสียหาย ๑๑๒ สาย
สะพาน ๔๙ แห่ง วัดวาอารามและบ้านเรือน
เสียหายอีกเป็นจำนวนมาก นับเป็นอุทกภัยร้ายแรง
ที่สุดในรอบ ๔๐ ปี ของจังหวัดน่านก็ว่าได้
เมืองไทยเรานี้มีดีอยู่ตรงที่ว่า ทุกครั้งที่มี
เหตุเภทภัยเกิดขึ้นที่ไหน ไม่ว่าจะเป็น อีสาน เหนือ
กลาง ตะวันออก ตะวันตก หรือใต้ พวกเราคนไทย
ไม่เคยนิ่งดูดายทอดทิ้งกัน ธารน้ำใจจะหลั่งไหล
มาให้ความช่วยเหลือจากทุกทิศทางทุกครั้ง และที่
ไม่เคยขาดเลยคือธารน้ำใจจากลูกพระธัมฯ ภายใต้
การนำของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
โดยทุกครั้งที่ท่านได้ทราบข่าว ท่านจะมอบหมาย
ให้ทางมูลนิธิธรรมกายและศูนย์กัลยาณมิตร
ในพื้นที่ออกไปดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่าง
อุบาสิกา เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิธรรมกายและญาติโยม
กัลยาณมิตรลูกพระธัมฯ ต่างมีประสบการณ์มี
ความชำนาญกันเป็นอย่างดี บางพื้นที่ที่ประสบภัย
แม้จะต้องลุยน้ำ บุกป่า ฝ่าโคลน เข้าไปยากลำบาก
แค่ไหนก็ยังเข้าไปถึงจนได้อย่างคราวที่ไปดำเนินการ
ช่วยเหลือวัดที่ประสบอุทกภัยที่อุตรดิตถ์ เมื่อเดือน
พฤษภาคมที่ผ่านมา ทุกคนในคณะต่างรู้สึกตื้นตันใจ
และหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้ยินพระที่วัด
แห่งหนึ่งบอกให้ทราบถึงความช่วยเหลือที่ได้รับว่า
นั่นเป็นอาหารมื้อแรกที่ท่านได้ฉันในรอบ ๒ วัน
นับแต่เกิดอุทกภัย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าคิดว่า ถ้าหาก
พวกเราชาวพุทธตัวนิ่งดูดาย ปล่อยให้พระเณร
อดตาย ในคราวที่เกิดอุทกภัยนี้ ก็คงเป็นเรื่องที่
น่าเศร้าสะเทือนใจไปไม่รู้ลืมเลยทีเดียว
สำหรับอุทกภัยครั้งใหญ่ที่จังหวัดน่านนี้ก็เช่น
เดียวกัน พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์
ประธานมูลนิธิธรรมกายได้มอบหมายให้พระอาจารย์
อุบาสก อุบาสิกา เจ้าหน้าที่ และญาติโยมกัลยาณมิตร
ลูกพระธัมฯ ออกไปดำเนินการช่วยเหลือในทันที
โดยมีพระมหาเรวัฒ อคฺคาทโร และพระมหา
เร่งด่วน ซึ่งเรื่องนี้ทางพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อนันตชัย ฐิตชโย เป็นหัวหน้าคณะนำเครื่อง
อยู่ให ญ ๗๐