ข้อความต้นฉบับในหน้า
ศีล - วินัย
ไม่มีเหตุจำเป็น เช่น ไม่ได้ป่วยไข้ ให้ไล่ออกไปจากวัด หรือรูปใดไม่มา
สวดมนต์ทำวัตรเช้า-ทำวัตรเย็นให้ไล่ออกจากวัด
เมื่อพระภิกษุรูปนั้นอ่านกฎของวัดไปทีละข้อๆ ในที่สุดจะถึง
ข้อที่ท่านทำผิด เช่น สมมุติว่าทำผิดฐานที่ไม่มาสวดมนต์ทำวัตรเช้า
โดยไม่มีเหตุจำเป็นอยู่เป็นประจำ พอถึงข้อนี้หลวงพ่อวัดปากน้ำฯ จะ
ให้หยุด แล้วถามว่า “ท่านได้ทำความผิดในข้อนี้หรือเปล่า” ถ้าเขาทำ
เขาก็ต้องรับ “ผมทำผิดครับ” เออ....แล้วกฎมันบอกว่าไงนะ?
“ถ้าทำผิดกฎบอกว่าให้ไล่ออกจากวัดครับ”
“ถ้าอย่างนั้นขนของออกไปเดี๋ยวนี้ นี่พ่อไม่ได้ไล่ท่านนะ
กฎวินัยมันไล่ เพราะฉะนั้นขนของออกไปเดี๋ยวนี้เลย จะมาโกรธพ่อไม่
ได้ เพราะท่านเซ็นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าถ้าผิดอย่างนี้จะต้องออกจากวัด
ท่านได้ไล่ตัวเองตามกฎที่มีอยู่ หลวงพ่อไม่ได้ไล่นะ”
คราวนี้ เราก็มาดูปัญหาที่ถามว่าผู้พิพากษาตัดสินประหารชีวิต
ผิดศีลข้อปาณาติบาตหรือไม่ ก็ดูว่ากฎนั้นได้ตั้งกันไว้เป็นหลักเป็น
เกณฑ์ในสังคมแน่นอนหรือเปล่า ถ้าแน่นอนเป็นอย่างนั้นแล้ว กติกา
ลงโทษว่าอย่างไร ถ้าพยายามจะลดหย่อนผ่อนปรนลงมาแล้วก็ยัง
แก้ไขอะไรไม่ได้ จำเป็นต้องตัดสินไปตามกติกาบ้านเมือง โดยไม่มีใจที่
จะแถมโกรธ แถมเกลียด แถมแกล้งอะไรลงไปเลย ก็บอกว่าผู้พิพากษา
ไม่ผิด แต่ว่าโน่นแน่ะคนที่แบกเวรนี้เอาไว้ คือคนที่ตรากฎหมายนี้ คน
นั้นแหละที่จะแบกเอาไว้มาก
เพราะฉะนั้น การตรากฎหมายแต่ละข้อ ขอให้คิดให้มาก ไม่
อย่างนั้นคนที่ตรากฎนั่นแหละที่ต้องแบกบาป รับบาปเอาไว้ ผู้
พิพากษาไม่ได้แบกอะไรหนักหนา ยกเว้นผู้พิพากษาที่แกล้งเขา หรือ
ไม่ได้แกล้ง ตัดสินไปตามเนื้อหานั้น แต่มีใจยินดีให้มันตายไปเสียเถอะ
อนุโมทนาบาปก็ได้บาปด้วยนะ
ห ล ว ง พ่ อ
35
ตอบ ปั ญ ห า