ข้อความต้นฉบับในหน้า
11
ตายแล้วไปไหน
คราวนี้ก็ปัญหาตามมาว่า ขณะที่ไฟไหม้โลก อะไรๆ ก็ตายหมด
โลกกลายเป็นหมอกเพลิงนะ ถามว่าคนไปไหน สัตว์ไปไหน คำตอบก็คือ ขณะที่ไฟเริ่มจะไหม้โลกนะ
ไม่ใช่รุ๊ปปั๊บไหมฮือขึ้นมา มันค่อยๆ แล้ง แล้วค่อยๆ ร้อน จากแล้วแล้วค่อยร้อน จากแล้ง
ค่อยคุกรุ่น น้ำแห้งผากไปทั้งโลก แล้วจากนั้นไฟจึงจะค่อยๆ ไหม้ขึ้นในโลกนี้
ปรากฏการณ์ช่วงนี้เป็นช่วงยาว เป็นหมื่นเป็นแสนปี
ชาวโลกในยุคนั้นเริ่มรู้สึกตัวว่าเรานี่ไม่รอดแน่ๆ พวกที่มีปัญญาดี มีสติดี ก็เริ่มสร้างความดี ให้ทาน
รักษาศีล เจริญภาวนา บางพวกตั้งใจนั่งทำสมาธิ เพราะตั้งใจทำความดีอย่างนี้ พอตายลง
พวกที่กำลังบุญพอสมควรก็ไปเกิดเป็นเทวดา พวกที่นั่งสมาธิด้วย ทำบุญไปด้วยมีบุญมากกว่าเขา
ไปเกิดเป็นพรหม ตายแล้วกายเนื้อก็ไปเผาที่ป่าช้า กายละเอียดไปเกิดเป็นเทวดา ไปเป็นพรหม
ส่วนพวกที่ทำบาป โลกจะคุกรุ่น จะร้อนจะแล้งยังไง ไม่สนใจ เอาแต่กินเหล้าเมายาของมันเรื่อยไป
ละโลกตกนรกตูมไป เสียท่าเลย ลงไปเป็นสัตว์นรกซะแล้ว กลับเนื้อกลับตัวไม่ทันแล้ว
ก็เป็นอย่างนั้น แบ่งเป็น ๒ พวก คือ
พวกหนึ่ง ไปสวรรค์ ไปเป็นเทวดา เป็นพรหม
• พวกที่สอง ลงนรกไป
เทวดาหนีไฟ
พอไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก เพราะว่าธาตุในโลกวิปริต เนื่องจากคนจิตใจวิปริต
ทำให้มลภาวะเกิดขึ้นในโลกมาก เมื่อโลกไหม้เป็นหมอกเพลิงแล้ว พวกที่ทำบุญไปเป็นเทวดาแล้ว
ไปเป็นพรหมแล้ว พวกที่บาปลงนรกกันไปแล้ว พวกที่ไปเป็น