ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทางฝ่ายที่เป็นฆราวาส กตัญญูรู้คุณบรรพบุรุษของเราเป็นอย่างไร เริ่มตั้งแต่พ่อ แม่ ปู่ ย่า
ตา ยาย ของเรา ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็ไปกราบเท้าขอบคุณท่านงามๆ
ที่อุตส่าห์รักษาพระศาสนาเอาไว้ให้เรา ถ้าไม่ได้ท่านเหล่านี้รักษาคำสอนเอาไว้ เราคงโง่ตายเลยนะ
นอกจากนั้น รู้คุณตัวเอง กตัญญูกตเวทีต่อตัวเอง เป็นอย่างไรล่ะ....ก็ให้รู้ว่า เรานี่
โชคดีนะที่ได้เกิดเป็นคน ถึงได้มาฟังเทศน์เรื่องกันนี่ ถ้าเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานละ
ก็ไม่รู้เรื่องกันหรอก ฉวยโอกาสตอนที่ยังเป็นคนอยู่นี่ ทำทานได้รีบทำ รักษาศีลได้รีบรักษา
ฟังเทศน์ได้รับฟัง นั่งสมาธิได้รีบนั่ง อย่ามัวชักช้าอยู่ ตายแล้วละก็ทำอะไรไม่ได้หรอก
แล้วคนเรานะ.... สักวันหนึ่งก็ต้องตาย แต่ว่าก่อนจะตายล่ะ ให้เอาตัวของเรา
โดยเฉพาะร่างกายของเรานี้มาใช้ให้คุ้ม คือว่าร่างกายของเรา ถ้าจะอุปมาเหมือนรถยนต์ก็ได้
รถยนต์นี่ถึงแม้เราไม่ใช้ เก็บเอาไว้ วันหนึ่งมันจะผุจะพังไหม มันก็ต้อง
ต้องพังมันต้องคืนกลับแผ่นดินไปจนได้ละ เก็บไว้อย่างดีอย่างไรมันก็ต้องพัง รถยนต์เอาไปใช้
ใช้แล้วกันก็พัง ไม่ใช้มันก็พัง แต่ว่าถ้าใช้จนกระทั่งคุ้ม มันพังไปก็ไม่เสียดาย แต่เก็บเอาไว้ไม่ได้ใช้
แล้วมันพังไป น่าเสียดายจริงๆ
ตัวของเราก็เหมือนกัน รู้แล้วว่าวันหนึ่งต้องตาย แต่ก่อนจะตายนะ
เรามาสร้างทานบารมีให้คุ้ม มารักษาศีลให้คุ้ม นั่งสมาธิให้คุ้ม มาบำเพ็ญบารมีทั้งสิบให้คุ้ม
คุ้มแล้วถึงตายก็ตายไปเถอะ ไม่เสียดายแล้วร่างกายนี้ เพราะใช้มาคุ้มค่าแล้ว
แผ่นดินจะเอากลับไปก็เอากลับไปเถอะ เบื่อเต็มที่แล้ว
แล้วไปเอาร่างกายใหม่ที่ประณีตกว่าในชาติหน้าโน่น
แต่ว่าถ้าอยู่แบบคนขี้เกียจ เป็นอย่างไรล่ะ ก็เป็น “โรคบิดติดเสื่อ งานการเบื่อ กินข้าวได้
ขอกินกับนอนอย่างเดียว จะทำอะไรบอกไม่ไหวทั้งนั้น กินกับนอนจนแก่ตาย มันน่าเสียดาย
29