ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลังจากมนุษย์เข่นฆ่ากันมากเข้าๆ ฆ่ากันตายไปตั้งครึ่งค่อนโลก บางคนก็เลยได้คิดว่า
การฆ่ากันนี่ไม่ดีเลย การดูถูกกันนี่ไม่ดีเลย การเหยียดหยามกันนี่ไม่ดีเลย
แล้วพวกนี้ก็เริ่มรักษาศีลกันใหม่
มนุษย์เริ่มรักษาศีลอีกครั้ง
เมื่อมนุษย์เห็นคุณค่าของศีลห้า พากันรักษาศีลห้าขึ้นเรื่อยๆ รักษาไปจนตลอดชีวิต
จิตใจของมนุษย์ก็ดีขึ้น มลภาวะมีอยู่ในโลกก็ลดน้อยลง
เมื่อเป็นอย่างนี้ อายุมนุษย์ในยุคนั้นตั้งแต่แค่สิบปีในรุ่นนั้น ก็เพิ่มขึ้นในนต่อๆ มา
คนยังรักษาศีลกันอีกเรื่อยๆ อายุของมนุษย์ก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นลำดับๆ ไป
เป็นอย่างนี้จนกระทั่งเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้านๆ ปี ขึ้นไป
นี่คือการเกิดขึ้น
ดขืน ทรงอยู่ เสื่อม ดับไป แล้วก็เจริญ เจริญแล้วก็เสื่อม
มีอยู่ในโลกนี้ตลอดเวลา
ถ้าใครทำดี เป็นมนุษย์ก็มีสุข ละโลกไปแล้ว ถ้ายังไม่หมดกิเลสก็ไปเป็นเทวดาบ้าง
ไปเป็นพรหมบ้าง ก็ยังมีสุข แต่ถ้าทำชั่ว อย่างเบาะๆ ก็เป็นสัตว์นรกบ้าง เป็นเปรตบ้าง
เป็นอสุรกายบ้าง เป็นสัตว์เดรัจฉานบ้าง ก็เป็นกันไป ฝ่ายดีก็มีฝ่ายชั่วก็มี
แต่ว่าถ้าตั้งใจทำดีอย่างที่สุด ตั้งใจให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา บำเพ็ญบารมีทั้งสามขั้นตอน คือ
ทั้งบารมีธรรมดาสิบ บารมีที่เป็นอุปบารมีอีกสิบ คือ สละเลือดเนื้อ เป็นปรมัตบารมีอีกสิบ คือ
สละชีวิตบำเพ็บบารมีกัน ครบสามสิบทัศเมื่อไหร่ ก็บรรลุมรรคผลนิพพานกันไป
ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดกันอีก
24