ข้อความต้นฉบับในหน้า
21
ถ้าในช่วงนั้นมนุษย์ทั้งโลกเฉลี่ยแล้วอายุเกินคนละหนึ่งแสนปีนะ พระองค์ไม่มาเกิดหรอก
เพราะถ้ามาเกิดขณะที่มนุษย์อายุเป็นแสนๆ เป็นล้านๆ ปีนั่น ไปบอกว่า นี่มนุษย์เอย!
อีกหน่อยเจ้าจะต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย แทนที่คนจะเชื่อ คนกลับหัวเราะก๊ากๆ เลย โธ่!...
อย่ามาพูดซะให้ยากเลย ฉันอยู่มาตั้งล้านปีแล้ว ยังไม่แก่ แก่เป็นยังไง อย่ามาโกหกกันเลย
พระพุทธเจ้ามาสอน คนยังว่ามาโกหก เพราะอะไร เพราะอายุมนุษย์ยุคนั้นยืนเหลือเกิน
สภาพแวดล้อมในช่วงนั้นดีมาก มลภาวะถึงเป็นพิษบ้าง ก็ยังดีกว่าปัจจุบันนี้มาก เพราะฉะนั้น
คนในยุคนั้นก็ประมาท ฟังคำสอนในพระพุทธศาสนาไม่รู้เรื่อง เหมือนยังกับลูกเศรษฐี
ถ้ามีใครไปบอกว่า คุณจะต้องระวังนะ คนเรามีขึ้นมีลง วันหนึ่งคุณอาจจะอดได้นะ
เขาคงถามกลับมาว่า อดเป็นไง ไม่รู้จัก เงินเป็นพันๆ ล้านจะอดยังไง คุยกันไม่รู้เรื่องอย่างนี้แหละ
เพราะฉะนั้น ช่วงที่มนุษย์อายุเฉลี่ยในโลกนี้เกินคนละหนึ่งแสนปี
พระพุทธเจ้าไม่มาบังเกิดหรอก เสียเวลา เพราะถ้าพระองค์มาบังเกิดก็คงสอนกันไม่รู้เรื่อง เกิด แก่
เจ็บ ตาย
อะไรไม่รู้เรื่อง
ในเวลาเดียวกัน ถ้าอายุของคนในโลกนี้เฉลี่ยต่ำกว่าร้อยปีมาก พระองค์ก็ไม่มาบังเกิด
เพราะว่าเมื่ออายุมนุษย์ต่ำกว่าร้อยปีมากๆ เช่น อายุคนทั้งโลกเฉลี่ยแล้วสิบปีตาย
อย่างนี้หมายความว่า พอขวบหนึ่งมันก็เป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว โธ่เอ๊ย!... ขวบหนึ่ง ตัวแค่ลูกหมา
เป็นหนุ่มแล้ว “พ่อ... กินเหล้ากันเถอะ” “แม่...หนูอยากจะมีผัว” ขวบหนึ่งจะมากินเหล้า จะมามีผัว
จะไปสอนธรรมะอะไรกัน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่บังเกิดหรอก เสียเวลาพระองค์อีกเหมือนกัน
นี่มาอย่างนี้