การตอบแทนพระคุณของพระสารีบุตร : หน้า 11/33

ทำไม? พระสารีบุตรจึงเลิศด้วยปัญญา ๒๐ สูงไหม ก็สูงมาได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเพียงแค่นี้ยังไม่พอ เพราะว่าสัตว์บางประเภทมันก็รู้คุณเจ้านายของมัน ยก ตัวอย่างเช่น สุนัขที่เลี้ยงเอาไว้ เจ้าของให้ข้าวให้น้ำมันกิน มันก็รู้คุณ เพราะฉะนั้นใครที่ไม่รู้คุณ ก็แย่กว่าสุนัข หมดศักดิ์ศรีความเป็นคนเสียแล้ว กตเวที แปลว่า ประกาศคุณ วิธีประกาศคุณของท่านผู้มีคุณแก่เรานั้นง่าย ขั้นต้น คือหาทางแทนคุณท่าน เช่น พ่อแม่เลี้ยงเรา ให้กำเนิดเรามา เพราะฉะนั้นเราก็ตอบแทนพระคุณของท่าน ด้วยการ เลี้ยงดูท่าน ซึ่งโดยทั่วไปเรานึกกันอยู่แค่นี้ แต่ที่สะดุดใจ ตรงวิธีตอบแทนคุณของพระสารีบุตรนี่แหละ พระอัสสชิเป็นพระอรหันต์ ท่านมีแล้วทุกอย่าง พระสารีบุตรก็เป็นพระอรหันต์เลิศด้วยปัญญา ท่านก็มี วิธีตอบแทนคุณพระอัสสชิด้วยการประกาศคุณท่านแบบ พระอรหันต์ผู้มีคุณธรรมสมบูรณ์แล้ว คือ ก่อนจะนอน ท่านเข้าสมาธิตรวจดูว่า อาจารย์ของเราบัดนี้อยู่ ณ ที่ไหน ท่านก็หันหน้าไปทางนั้น แล้วกราบ ๓ ครั้ง หันศีรษะ นอนไปทางทิศนั้น เอาศีรษะซึ่งเป็นส่วนอวัยวะที่สูงสุดใน ร่างกาย เป็นเครื่องแทนดอกไม้ธูปเทียนไปบูชาแทบเท้า ท่านพระอัสสชิ นี่คือการประกาศพระคุณครูบาอาจารย์ ของพระสารีบุตร g คราวนี้ย้อนกับมาดูตัวเรา ใครไม่เคยเลี้ยงพ่อแม่ มาอย่างจริงจังแล้ว ตรงนี้จะมองไม่ออก โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่มีทุกอย่างพร้อมมากกว่า ลูก การเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ ตอบแทนพระคุณท่านจึงทำไม่ ง่ายเหมือนกัน เพราะว่าฐานะของบางคนยังขัดสน ความ ขัดสนเลยเป็นผลให้เลี้ยงพ่อแม่ยากสักหน่อย ผู้เป็นลูก ต้องกัดฟันจริงๆ จึงจะทำได้ หลวงพ่อก็ขออนุโมทนากับ หลายๆ ท่านที่ทำได้ด้วย ส่วนบางท่านมีฐานะดี แต่พ่อแม่ไม่เต็มใจจะมา อยู่ด้วย ทั้งๆ ที่ลูกอยากจะตอบแทนคุณของท่านให้มาก ที่สุด ก็ทำไม่ค่อยจะถนัดอย่างที่ควรจะเป็น เพราะแม่ พ่อแม่จะยังลำบาก แต่ท่านก็ไม่ยอมมาอยู่กับเรา ท่าน ติดถิ่นของท่าน ไม่ยอมย้ายจากบ้านเดิม บางท่านก็ถึง ขนาดจ้างวานคนอื่นให้ไปช่วยดูพ่อแม่แทนเรา ก็เป็นการ ตอบแทนพระคุณที่ยากขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง แต่ที่เห็นยากจริงๆ ก็คือ วันหนึ่งมีโยม ๒ คน เป็นสามีภรรยา อายุประมาณสักสามสิบเศษๆ มากราบ หลวงพ่อ หลวงพ่อก็ถามเขาว่า “เป็นยังไง ดูแลพ่อแม่ดีไหม แต่ละเดือนส่งเงินทองไปให้พ่อแม่ใช้บ้างไหม?" A