ข้อความต้นฉบับในหน้า
T
ทำไม? พระสารีบุตรจึงเลิศด้วยปัญญา ๕๐
ไม่ฝืนร่างกายมากจนเกินไป ไม่ถึงกับเกร็ง แต่อย่าให้หลัง
โค้งงอ หลับตาพอสบายคล้ายกับกำลังพักผ่อน ไม่บีบ
กล้ามเนื้อตาหรือขมวดคิ้ว แล้วตั้งใจมั่น วางอารมณ์สบาย
สร้างความรู้สึกให้พร้อมทั้งกายและใจว่า กำลังจะเข้าไปสู่
ภาวะแห่งความสงบสบายอย่างยิ่ง
๔. นักกำาหนดนิมิต เป็น "ดวงแก้วกลมใส" ขนาด
เท่าแก้วตาดำใสบริสุทธิ์ ปราศจากราศีหรือรอยตำหนิใดๆ
ขาวใส เย็นตาเย็นใจดังประกายของดวงดาว ดวงแก้ว
กลมใสนี้เรียกว่า บริกรรมนิมิต นึกสบายๆ นึกเหมือน
ดวงแก้วนั้นมานิ่งสนิทอยู่ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด
นึกไปภาวนาไปอย่างนุ่มนวล เป็นพุทธานุสติว่า “สัมมา
อะระหัง” หรือค่อยๆ น้อมนึกดวงแก้วกลมใสให้ค่อยๆ
เคลื่อนเข้าสู่ศูนย์กลางกายตามแนวฐาน โดยเริ่มต้นตั้งแต่
ฐานที่หนึ่งเป็นต้นไป น้อมนึกอย่างสบายๆ ใจเย็นๆ ไป
พรอมๆ กับค่าภาวนา
อนึ่ง เมื่อนิมิตดวงแก้วกลมใสปรากฏแล้ว ณ กลาง
กาย ให้วางอารมณ์สบายๆ กับนิมิตนั้น จนเหมือนกับ
ว่าดวงนิมิตเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ หากดวงนิมิตนั้น
อันตรธานหายไป ก็ไม่ต้องนึกเสียดาย ให้วางอารมณ์สบาย
แล้วนึกนิมิตนั้นขึ้นมาใหม่แทนดวงเก่า หรือเมื่อนิมิตนั้นไป
ปรากฏที่อื่น ที่มิใช่ศูนย์กลางกาย ให้ค่อยๆ น้อมนิมิตเข้า
ฐานที่ 3 ปากช่องจมูก หญิงข้างซ้าย
ชายข้างขวา
ฐานที่ 3 เพลาตา หญิงช่างซ้าย
ชายข้างขวา
ฐานที่
จอมประสาท
ฐานหี @ ช่องเพดาน
ฐานหี @ ปากช่องสําค
ฐานที่ 9 ศูนย์กลางกายที่ตั้งจิตถาวร
ฐานที่ 3 ศูนย์กลางกายระดับสะดือ
๕๑
ภาพแสดงที่ตั้งจิตทั้ง ๗ ฐาน
๒ นิ้วมือ