ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทำไม? พระสารีบุตรจึงเลิศด้วยปัญญา ๔๐
ไหน เขาทั้งสองจะตามเข้าไปถามปัญหาต่างๆ ทันที เขา
เที่ยวถามปัญหาต่างๆ จนทั่วชมพูทวีปก็ยังไม่พบโมกขธรรม
จึงกลับมายังที่อยู่ของตน แล้วตกลงใจทำกติกากันว่า "ผู้
ใดได้บรรลุอมตธรรมก่อน ผู้นั้นจงบอกธรรมนั้นแก่กัน
ลำดับนั้น พระบรมศาสดาเสด็จถึงกรุงราชคฤห์
ทรงรับเวฬุวันมหาวิหาร ที่พระเจ้าพิมพิสารถวายแล้ว
ประทับอยู่ในเวฬุวันนั้น
พระอัสสชิเถระ หนึ่งในจำนวนพระปัญจวัคคีย์
ที่พระศาสดาทรงส่งไปเพื่อประกาศคุณพระรัตนตรัย อยู่
ในระหว่างการเดินทางกลับมายังกรุงราชคฤห์
ในวันรุ่งขึ้นท่านถือบาตรและจีวรเพื่อบิณฑบาต
แตเชาครูตามพุทธประเพณี
สมัยนั้น อุปติสสปริพาชก ทำภัตกิจ (ทานอาหาร
เสร็จแล้ว)แต่เช้าตรู่ แล้วไปยังอารามของปริพาชก พบ
พระเถระ จึงคิดว่า “อันนักบวชเห็นปานนี้เรายังไม่เคยพบ
เลย ภิกษุรูปนี้คงจะเป็นผู้หนึ่งในบรรดาผู้ที่เป็นพระ
อรหันต์หรือผู้บรรลุพระอรหัตมรรคในโลก ไฉนหนอเรา
จึงเข้าไปหาภิกษุนี้แล้วถามว่า “ท่านผู้มีอายุ ท่านบวชอุทิศ
เฉพาะใคร? ใครเป็นศาสดาของท่าน? หรือว่าท่านชอบใจ
ธรรมของใคร ?"
แต่บังเกิดความเกรงใจ คิดในใจว่า “กาลนี้มิใช่กาล
ควรถามปัญหากะภิกษุนี้ ภิกษุนี้กำลังเข้าไปสู่ละแวกบ้าน
เที่ยวบิณฑบาต เราควรติดตามภิกษุรูปนี้ไปข้างหลังๆ”
เขาได้เห็นพระเถระบิณฑบาตเสร็จแล้ว กำลังแสวงหา
สถานที่เพื่อฉันภัตตาหาร ปริพาชกทราบความที่พระเถระ
นั้นประสงค์จะนั่ง จึงได้จัดตั้งของตนถวาย แม้ในเวลาที่
ท่านฉันเสร็จแล้วก็ได้ถวายน้ำในกุณโฑของตนแด่พระเถระ
เมื่อทำเช่นนั้นแล้ว ปริพาชกจึงทำปฏิสันถารอย่างจับใจ
กับพระเถระซึ่งฉันเสร็จแล้ว เรียนถามอย่างนี้ว่า “ท่าน
ผู้มีอายุ อินทรีย์ของท่านผ่องใสนัก ผิวพรรณบริสุทธิ์
ผุดผ่อง ท่านผู้มีอายุ ท่านบวชอุทิศเฉพาะใคร? ใครเป็น
ศาสดาของท่าน? หรือท่านชอบใจธรรมของใคร?"
พระเถระคิดว่า “ธรรมดาปริพาชกเหล่านี้ ย่อม
เป็นปฏิปักษ์ต่อพระศาสนา เราจักแสดงความลึกซึ้งใน
พระศาสนาแก่ปริพาชกนี้" เมื่อจะแสดงความที่ตนบวช
ใหม่ จึงกล่าวว่า "ผู้มีอายุ เราแลเป็นผู้ใหม่บวชแล้วไม่นาน
เพิ่งมาสู่ธรรมวินัยนี้ เราจักไม่สามารถแสดงธรรมโดย
พิสดารกอน"
ปริพาชกเรียนว่า “ข้าพเจ้าชื่ออุปติสสะ ขอ
พระผู้เป็นเจ้ากล่าวตามสามารถเถิด จะมากหรือน้อยก็ตาม
ขอพระผู้เป็นเจ้า จงกล่าวเถิด จงบอกแก่ข้าพเจ้าแต่
A