หลักการดำเนินชีวิตที่ดีงาม วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน พฤษภาคม พ.ศ.2556 หน้า 73
หน้าที่ 73 / 116

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้กล่าวถึงความสำคัญของกรรมดีและนิสัยที่ดีในการดำเนินชีวิต โดยยกตัวอย่างหลักธรรม 4 ประการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน ซึ่งประกอบไปด้วย เมตตา, กรุณา, มุทิตา และ อุเบกขา การทำตามหลักเหล่านี้จะช่วยให้เกิดความสุขและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต เนื้อหายังเน้นถึงผลกรรมที่ส่งผลต่อชีวิตในปัจจุบันและการที่จะต้องปฏิบัติตามหลักธรรมเพื่อหลีกเลี่ยงการส่งผลกรรมที่ไม่ดีในอนาคต.

หัวข้อประเด็น

- กรรมดี
- นิสัยดี
- หลักธรรม 4 ประการ
- การดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข
- ผลกรรมในชีวิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

กรรมข้า เลือกทำแต่กรรมดี การอยู่ร่วมกันจะต้องไม่ประพฤติลำเอียง คือไม่ทำด้วยยอดดี ด้วยรัก ด้วยชัง ด้วยโลก ด้วยหลง เข้าใจจาก เรื่องที่ ๑-๔ นี้ เป็นหลักการกระทำเพื่อการดำเนินชีวิตที่ดีงาม ซึ่งจะเรียกว่า นิสัยที่ดี ประกอบ เพราะการกระทำเหล่านี้เมื่อผู้ดีด้วยเป็นหลักในการดำเนินชีวิตแล้ว ผู้นั้นย่อมทำตามหลักนั้นน้อย ๆ ทุกวันจนติดเป็นนิสัย อาจกล่าวว่าบุคคลนั้นได้ตั้งโปรแกรมบุญให้แก่ตัวเองแล้วก็ย่อมได้ หลักในการดำเนินชีวิต ๔ ข้อ ที่พูดองค์พระให้ไว้ หากว่าโดยหลักธรรมแล้วจะได้ว่า ชีวิตอยู่ด้วยการแบ่งน นั้นคือจะต้องมี เมตตา ชีวิตจะต้องช่วยยกยามตามทุกๆ ได้ยาก นั้นคือจะต้องมี กรุณา ชีวิตจะมีแต่เพื่อนดี ต้องยกองค์คนดี นั้นคือจะต้องมี มุทิตา และชีวิจจะลงสุขต้องให้ความเป็นธรรม นั้นคือจะต้องมี อุเบกขา หลักธรรมทั้ง ๔ ข้อว่า เรียกว่า พระหมิทา ๔ ดังนั้นแม้เราเป็นมนุษย์ ก็ต้องฝึกหลักธรรมของการเป็นพระหม เข้าใจว่า โลกนี้จริง หมายถึง โลกอย่างก็อีกตัวของเรานี้มีมาก ความสุขที่รุกข์ ความเจริญหรือ เสื่อมที่เป็นอยู่ขณะนี้ เกิดจากผลกรรมที่ตนเองทำไว้ในอดีตชาติ และช่วงเวลาตั้งแต่เกิดจนถึงนาที ที่แล้วมาในชาตินี้ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามหลักการดำเนินชีวิตดี ๔ ข้อเบื้องต้นได้ดีมากน้อยแค่ไหน ก็จะกลายเป็นผลกรรมดีที่เกิดขึ้นในชีวิตปัจจุบันมากเท่านั้น เข้าใจว่า โลกนี้จริง หมายถึง เมื่อสิ้นแล้วไม่ได้สบายสุข แต่จะมีที่ไปเกิดใหม่ในสัปปรายภาพ แต่จะไปเกิดเป็นอะไร อยู่ที่ไหน ก็เป็นไปตามความสมควรแก่กรรมที่ทำเอาไว้ในปัจจุบันจนกระทั่งวันตาย ว่าได้ปฏิบัติตนตามหลักการดำเนินชีวิต ๔ ประการ ได้มากน้อยหรือผิดพลาดประการใด รวมกับ ผลกรรมในอดีตชาตที่ยงตามส่งผลสมบูรณ์กับชีวิตในโลกก็ด้วย เข้าใจว่ามาตราดี หมายถึง มีพระคุณอุ่นใจ เพราะเป็นผู้ให้ชีวิต ให้คนแบบกายมนุษย์ และ สิ่งสำคัญคือสักดิ์มนุษย์ไม่ได้ดีกันเอง จำเป็นต้องได้รับจากผู้ปลูกฝังและถ่ายทอดสืบประพิฏ ปฏิบัติของตามหลักการดำเนินชีวิต ๔ ประการนี้แก่บุคคล ในตรงกันข้ามมาจากก็มีโทษ หากไม่ได้ ปลุกฝังหรือถ่ายทอดดิสัยให้ใน แต่กลับปลุกฝังหรือถ่ายทอดดนิสัยเสียให้แก่นดร เข้าใจว่าบิดามารดา หมายถึง มีพระคุณต่อคุณรวมลีเทพต่อผู้เป็นกัน ในท่านเองด้วยกันมารดา เข้าใจว่าก โอปปกติจะมี หมายถึง สัตว์ที่ผุดเกิดขึ้นแล้วได้เต็มที่ในทันใด โดยไม่ต้องจากยามาดีดา เป็นผู้ให้กำเนิด เมื่อดายก็ไม่มีซากปรากฏ เช่น เทวดาและสัตว์นรก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่ามีจริง นรก เข้าใจว่าบูชา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้แจ้งโลก พ้นโลกแล้วด้วยพระองค์เอง และสอนให้ผู้อื่นนำตาม มีจริง พระอันต์สลาว ผู้ปฏิบตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วนำทุกๆด้านมาได้จริง ความเข้าใจทุกประการข้างต้นก็ถือความเป็นไปของโลกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบแล้วนำมา ตรัสสอน เพื่อให้ชาวโลกได้ธำา จะได้ดำเนินชีวิตในเส้นทางปลอดภัย จากความเข้าใจถูกแล้ว เมื่อเข้าไปอยู่ในใจของผู้ใดอย่างกล้าหาญ ก็จะกลายเป็นสัมมาทิฏฐิ คือ ความเข้าใจในเรื่องความเจริญรุ่งเรืองของชีวิตตามความเป็นจริง ส่งผลให้เกิดความคิดชอบ การกล่าวว่า จากขอบ การกระทำชอบ การประกอบอาชีพชอบ คามเพียรยามชอบ คามะมั่นคงชอบ คามตั้งใจ มั่นอยู่เอง ๆ นี้ไป กลายเป็นยอดแห่งอริยมรรคนิ่ง ๘ ที่เนี้กลิ่นแน่เข้า ๆ ด้วยการปฏิบัติให้ถูกและ ทำช้า ๆ มั้ย ๆ จนเป็นนิสัยได้ เมื่อได้สำมามัณฑิฤฐิเป็นยอดในสิทธิประจําของบุคคลนั้น ชีวิตของผู้นั้น ก็จะบังเกิดแสงเงิน แสงทองขึ้นมา ชีวิตของผู้นั้นย่อมหวังได้ด้วยความเจริญรุ่งเรืองในธรรมไปตลอดชีวิต
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More