ข้อความต้นฉบับในหน้า
แด่ภิกษุสงฆ์ ๕๐๐ รูปเป็นประจำ จัดตั้งอาหารหวาน
คาวใส่บาตรพระไม่เคยขาด ช่วงบ่ายจะหาน้ำปานะ
ไปถวายพระ และตั้งใจฟังธรรมด้วยความเคารพ
ขณะเดียวกัน ท่านจะหาโอกาสไปดูแลภิกษุที่ป่วยไข้
ถ้ารูปไหนอาพาธก็จะหาหมอดีมาช่วยรักษา รูปไหน
จะต้องเดินธุดงค์ไปแสวงหาที่วิเวก ก็มักจะถวาย
เครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ท่านไม่เคยเดิน
มือเปล่าเข้าวัดเลย ถ้าไม่ถือภัตตาหารก็ถือน้ำปานะ
ไปถวายพระเสมอ
ในเวลาเศรษฐกิจตกต่ำถึงขีดสุด แต่ใจท่าน
ไม่ได้ตกต่ำตามไปด้วย ยังคงถวายทานตามปกติ
อาหารที่นำมาถวายพระสงฆ์นั้นแม้เป็นเพียงข้าว
ปลายเกรียนกับน้ำส้มผักดอง ท่านก็นำมาถวาย
ด้วยใจที่อิ่มบุญ แม้เทวดาบอกให้ท่านเลิกทำทาน
แทนที่ท่านจะปฏิบัติตาม กลับขับไล่เทวดาให้ออก
จากซุ้มประตูบ้าน เพราะท่านเชื่อมั่นในพุทธานุภาพ
เมื่อใจของท่านอยู่ในบุญ เชื่อคุณของพระรัตนตรัย
ในที่สุดบุญก็พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เพื่อนที่เคยโกง
เงินท่านไปก็เอาเงินมาคืน ธุรกิจการค้ากลับฟื้นขึ้น
มาใหม่ กลายเป็นคนรวยกว่าเดิม เมื่อท่านละโลก
ไปแล้ว ก็ได้ไปเสวยบุญอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต รุ่งเรือง
ด้วยทิพยวิมานและทิพยบริวารมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีนางวิสาขามหาอุบาสิกา
ผู้ทำหน้าที่เป็นกองเสบียงจนตลอดชีวิต นางยอม
ขายเครื่องประดับชื่อ “มหาลดาปสาธน์” ซึ่งถือว่าเป็น
เครื่องประดับที่แพงที่สุดในโลก เพื่อนำเงินมาซื้อ
ที่ดินและสร้างวัดบุพพาราม ที่พระภิกษุสามารถอยู่
พำนักได้ ๑,๐๐๐ รูป อุบาสิกาวิสาขาได้ทำหน้าที่
สนับสนุนงานเผยแผ่พระศาสนาในทุกด้าน เมื่อมี
ปัญหาเกิดขึ้นในหมู่สงฆ์ นางก็จะคอยหาทางแก้ไข
นางขอพร ๘ ประการจากพระพุทธเจ้าเพื่อให้ภิกษุ
สงฆ์บำเพ็ญสมณธรรมอย่างสะดวกสบาย ยอมให้
ลูกชายออกบวชในพระศาสนา จนกล่าวได้ว่าเป็น
“โยมแม่” ของพระทั้งวัดกันเลยทีเดียว ด้วยบุญกุศล