ข้อความต้นฉบับในหน้า
S
ความรู้ประมาณจึงต้องฝึกจากในห้องครัวให้ดี มิฉะนั้นจะกลายเป็นคนมีนิสัย
เห็นแก่ได้ มักง่าย เอาแต่ใจตัวเองตามมาไม่จบไม่สิ้น
๔. ห้องแต่งตัว คือ ห้องมหาสติ
ห้องแต่งตัว คือ ห้องพัฒนานิสัย ตัดใจและใฝ่บุญ
หน้าที่หลักของห้องแต่งตัวมีอะไรบ้าง
๑) ใช้ในการปลูกฝังสัมมาสติ คือฝึกประคองรักษาใจให้ผ่องใสเป็นปกติ
๒) ฝึกให้มีความระมัดระวังในทุก ๆ เรื่อง ไม่ประมาทเผอเรอ มีความตื่นตัว
ตลอดเวลา
๓) ฝึกตัดใจไม่หมกมุ่นในกาม ตามแฟชั่นหรือกระแสสังคม
๔) ฝึกใช้เหตุผลตักเตือนใจของตนให้เป็นสัมมาทิฐิและสัมมาสังกัปปะ ไม่ให้เกิด
ความลำเอียง และสูญเสียศีลธรรมประจำใจ
บางท่านฐานะไม่ได้ดีอะไรนัก ห้องแต่งตัวอาจจะเป็นมุมหนึ่งของห้องนอน ก็ไม่เป็นไร
ก็จัดว่าเป็นมุมแต่งตัว
เรื่องนี้มีข้อคิดอีกเช่นกันว่า ถ้าเราจับได้ว่าใครโกหกเรา เราจะโกรธมาก ยิ่งเรารัก
เราไว้ใจมากเท่าไรแล้วมาโกหกเรา ยิ่งโกรธมากเท่านั้น โกหก ๑ ครั้งก็แล้ว ๒ ครั้งก็แล้ว
ถ้า ๔ ครั้ง ๕ ครั้ง ชาตินี้ไม่ต้องคบกันแล้ว แต่ว่าแปลก ตัวเรายืนหลอกตัวเอง ยิ้มน้อย
ยิ้มใหญ่ได้ทุกวัน ๆ ที่หน้ากระจก มองตัวเองเมื่อไรก็หล่อก็สวยทุกที เมื่อเราหลอกตัวเอง
อยู่แบบนี้ เราก็จะพลาดขาดสติได้ เพราะฉะนั้น ห้องแต่งตัวหรือมุมแต่งตัวจึงเป็นห้องมหาสติ
๕. ห้องทำงาน คือ ห้องมหาสมบัติ
ห้องทำงาน คือ ห้องพัฒนานิสัยใฝ่ความสำเร็จ
หน้าที่หลักของห้องทำงานมีอะไรบ้าง
๑) ใช้ในการปลูกฝังสัมมาอาชีวะ ไม่หารายได้จากการผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย
ผิดจารีตประเพณี
๒) ใช้ปลูกฝังวินัยประจำห้องทำงาน