ความเชื่อในโลกหน้าและผลดีจากการทำดี : หน้า 48/106

มาถึงไกลแล้ว อีกทั้งยังจุดสุดหมัดเด็ดเรียงอย่างงเป็นระเบียบขนาดนี้ จะให้ทีพเป็นอย่างไร จึ่งไม่ยอมทิ้ง จากนั้น พอเดินทางต่อไปอีก พวกเขา ก็ได้เจอสิ่งมีค่าเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ อีก คือ เจอ เปลือกไมโบร ค เจอฝ้าย เจอฝ้าย เจอเหล็ก เจอชิ้นงู เจอสำริด เจอเงิน เจอทองคำ ตามลำดับไปเรื่อย ๆ ซึ่งชายคนแรกก็ยังสิ่งที่มีค่ามือน้อย และเลือกเอาสิ่งที่มีค่ามากกว่าแกนแทนเสมอ แต่ชายคนที่ 2 ไม่ยอมทิ้งเปลือกป่านสักที จนสุดท้ายพอเดินทางมาถึงที่หมาย ชายคนแรกก็ได้รับคำชื่นชมจากครอบครัว และกลายเป็นคนรวยไปในที่สุดส่วนชายคนที่ 2 ก็ยากจนเหมือนเดิม ซึ่งพระองค์ก็เหมือนกับชายคนที่ 2 นั่นแหละดังนั้นพระองค์โปรดละทุจจูและความเห็นผิด ๆ นี้เสียดาย !!! พอพระเจ้าปลายสิ่งมาถึงตรงนี้ จึงอมละทิ้งและของพระผู้พระภาคเจ้า พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะในที่สุด ปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อยที่มีความคิดเหมือนพระเจ้าปลายสิ่งที่ไม่เชื่อเรื่องโลกหน้า ทั้ง ๆ ที่มีคนจำนวนไม่น้อยเช่นกันพยายามแทงกลับด้วยคำถามว่า.ถ้าไม่เชื่อเรื่องโลกหน้าหรือชีวิตหลังความตายแล้วจะใช้เหตุผลใดอธิบายว่าทำไมมีคนจำนวนมากเจอฝี ? หรือสัมผัสธัญญาหรือพลังงานบางอย่างได้ ? หรือไม่สามารถหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายเรื่องเหนือธรรมชาติก็ได้ หรือแม้แต่การให้เหตุผลเรื่องกะลิกชาติ ที่บางคนจะลักได้จริงโดยมีคำถามยันชัดเจน !!! จากข้อมูลตรงนี้เอง ผู้อ่านคงมีข้อมูล ในกรั ตัดสินได้มากขึ้นแล้วสำหรับความเชื่อ เรื่องโลกหน้า ซึ่งมากมาดูกันจริง ๆ ในเชิงการได้ประโยชน์จากการเชื่อว่าโลกหน้ามีจริง เราจะได้รับผลดีกว่าการไม่เชื่อ เพราะเราจะได้ความอุ่นใจ ᴓ ประการดังกล่าวว่า ๑) ถ้าโลกหน้ามีจริง หากเราทำดี ก็จะได้ไปเกิดบนสวรรค์แน่นอน ๒) ถ้าโลกหน้ามีจริง หากเราทำดี ก็จะไม่เดือดร้อน และมีความสุขในโลกปัจจุบัน ๓) หากเราไม่ทำบาปเลย เราจะไม่ทุกข์ไม่เดือดร้อน ๔) หากเราไม่ทำบาป ก็จะทำให้เราเห็นถึงความบริสุทธิ์ของตนว่า เรานั้นไม่ทำบาปและมัวแต่คนอื่นจะทำบาปแต่ตัวเราเองก็ไม่ทำบาปตามกระแส เข่าโรค คลื่นโทรศัพท์ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ก็ใช่ว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่มี แต่เราจะสามารถมองเห็นและตรวจวัดสิ่งเหล่านี้ได้ ก็ต้องใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับมัน นรก สวรรค์ ชีวิตหลังความตายก็เช่นกัน จะสามารถพูดดังได้ก็ต้องใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม ซีรีส์คือจิตที่ถูกฝึก培อญุ จึงจะสามารถปรับไปเห็นสิ่งเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง ๓