ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลวงพ่ออตปัญหา
ถาม : ผู้ใฝ่ศึกษาและครูในการศึกษา ฝึกฝนอบรมตนเองให้เป็นคนเก่งและดี ควรมีคุณสมบัติและคุณลักษณะอย่างไร?
ตอบ : ในสมัยพระพุทธกาลพระสัมพุทธเจ้าทรงย่องพระราชาหลวงว่าเป็นเดชศักดิ์ คือเป็นผู้เคสามารถในด้านการศึกษา พระราชาหลเป็นโอรสของเจ้าชายสิทธัตถะและพระนางโศธราเป็นพระราชบุตรของพระเจ้าสุทโธนะกษัตริย์ผู้ครองกรุงบัญสิทธิ์ เมื่อพระคุณพระองค์มีอายุ ๗ ปี พระสัมพุทธเจ้าสัตว์บริโภคโรคพระบำเพ็ญสุข และมีพระดำรัสให้พระธรรมเสนาบดีรับจัดการบรรพชาให้แก่ทูลถามมาร และสามารถทรงได้ชื่อว่าเป็นสามเณรองค์แรกในพระพุทธศาสนา
เมื่อสามเณรทราหูลบอคให้ก็ศึกษาลาเรียน ยิ่งกว่านี้เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่ายพระภิกษุว่าก็ค่อยๆ ตักเตือนอย่างใด สามเณรทราหูลไม่ไถ่ย ไม่ได้แต่ง เพราะท่านถือว่าถ้าใครมากว่ากว่าตักเตือนเหมือนมาก็ภูมิปัญญาให้ เพราะตามธรรมดาคนเรามองข้อบกพร่องของตัวเองไม่ออก มองอยากและกว่าว่าจะเห็นก็นาน จะนั่นใครว่าล่าว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ก็เอาไปปฏิบัติตาม ท่านนี้สอนอย่างนี้
จนวันหนึ่งมีพระชนม์บัญญัติขึ้นมาไม่ให้พระภิกษุร่วมกับผู้ที่ไม่ใช่พระภิกษุด้วยกัน พระภิกษุทั้งหลายจึงไม่อาจให้สามเณรทราหูลนในที่อยู่ของตน สามเณรทรามว่า วินัยก็เป็นวินัย ไม่คิดโตเอง ไม่คิดจะไปบรรจวให้ใครเดือดร้อน เมื่อไม่มีที่จะนอน ก็ไม่ติเตียน หากทางพึงตนเอง ที่ล่ำพังไม่มีใครอยู่ควรจะเป็นที่ไหนในที่สุดนี้เข้าไปนอนในเวลาถือของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยพิจารณาแล้วว่าเวลาถูกอับเป็นที่สะอาด ประมวยด้วยรูปหอมมีพวงของหอมและพวงดอกไม้ห้อย สว่างด้วยแสงประทีป постоянในรัง เป็นที่ไม่เมาเสียดกูผู้อื่น