ข้อความต้นฉบับในหน้า
ชาวบ้านนึกว่าอาตมา
ตายแล้ว แต่อาตมา
ไม่เป็นอะไร”
แม้จะพบอุป
สรรคนานัปการ แต่
หลวงพ่อมาลัยยังคง
มุ่งหน้าพัฒนาวัด ซึ่ง
เดิมมีสภาพทรุดโทรม
ใกล้ร้างน้ำท่วมถึง มา
เป็นวัดบางหญ้าแพรกอันงดงามสง่าเช่นในปัจจุบัน
หลวงพ่อได้เมตตาเล่าสภาพของวัดครั้งแรกที่ท่าน
ได้พบเจอว่า “เมื่อก่อนวัดแห่งนี้มีแต่ป่ารก ไม่มีอะไร
มีแต่กุฏิพังๆ สัก ๕ หลัง สภาพเดิมเป็นป่า มีแต่
หญ้าเต็มวัด มีกุฏิไม้เล็กๆ ไม่ทน ถ้าจะอยู่ก็หวาด
เสียวว่าจะพังลงมา ตามโบสถ์หญ้าก็รกปกคลุมมาก
พระมหาสุริยนต์ จกฺกวโร อุปัฏฐาก กล่าว
ถึงการสร้างวัดของหลวงพ่อว่า “ท่านสร้างวัดขึ้นมา
ชักชวนพระบนทรายเอง โยมก็ช่วยกันเท ส่วนตัว
ท่านขายที่ดินมา
สร้างวัด ช่วง ๒ และ
๓
ปีหลังน้ำท่วมมาก
หลวงพ่อท่านมอง
การณ์ไกล เอาทราย
มาถมให้สูง ชาวบ้าน
ก็ด่าท่านอีกหาว่า
ทำให้แฉะ บ้าทำอะไร
ก็ไม่รู้ ถูกต่อต้าน
แต่ท่านเป็นคนทำจริง เงินทุกบาททุกสตางค์
หลวงพ่อนำมาสร้างหมด ไม่เคยเก็บไว้เพื่อ
ส่วนตัวเลย วัดจึงพัฒนาและรุ่งเรืองขึ้น
จากการอุทิศตนทำงานเพื่อพระศาสนา
ทำให้ท่านมีเวลาพักผ่อนน้อย พร้อมๆ กับการ
สร้างวัด หลวงพ่อมาลัยท่านยังได้แสดงพระธรรม
เทศนาโปรดสาธุชนในวัดผ่านหอกระจายข่าวและ
ออกอากาศทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์เป็นประจำ
กระทั่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ท่านอาพาธและ
by Glo