ข้อความต้นฉบับในหน้า
เลยต้องมาเทเหล้า-เผาบุหรี่ ช่วยเขาอยู่ ซึ่งถ้า
ไม่ได้คุณแม่ปูพื้นฐานมาให้ตั้งแต่ต้น เราก็คงจะ
มองไม่ออกเหมือนกัน
เมื่อเป็นอย่างนี้ ต้นทางแห่งความดี
ทั้งหลายของเรา จึงเริ่มต้นมาจากแม่ทั้งนั้น อย่านึก
ว่าตัวเองเก่งไป แค่ท่านจับโยนลงถังขยะ หรือไม่
ยอมให้เกิดในท้องของท่านละก็ ไม่ได้มานั่งอยู่
ตรงนี้กันหรอก
เพราะฉะนั้น พระคุณของแม่ที่อุปมาว่า
พรรณนาจนกระทั่งแผ่นฟ้าเต็มไปด้วยตัวอักษร
น้ำในมหาสมุทรที่เอามาแทนน้ำหมึกก็เหือดแห้งไป
และเขาพระสุเมรุที่เอามาใช้เป็นปากกาก็สึกไปจน
หมดนั้น ท่านหมายถึงแม่ประเภทที่นอกจากให้ชีวิต
ให้ร่างกายที่เป็นมนุษย์แล้ว ยังให้การอบรมสั่งสอน
ให้ลูกเป็นคนดีทั้งทางโลกและทางธรรม
จนกระทั่งลูกสามารถเข้าถึงพระธรรมกายในตัวได้
ซึ่งเรียกว่า “แม่แก้ว” นั่นเอง
ไม่ใช่แม่ประเภทที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ เลี้ยงลูก
แค่พอให้โตขึ้นมา แล้วต่างคนก็ต่างไป
"ลูกเอ๊ย แม่รักลูกมาก เอากะลานี้ไป
ขอทานนะ ถ้าเป็นคนอื่นแม่ไม่ให้หรอก”
หรือว่า “แม่รักลูกมาก แม่จึงสอนวิชา
ขโมยให้” อย่างนี้ไม่ใช่แม่แก้วแล้ว
ส่วนผู้ที่เป็นลูกก็เหมือนกัน นอกจากจะ
ทำตัวเป็นลูกที่ดี เชื่อฟังและทำตามที่คุณแม่ได้
อบรมสั่งสอนอย่างดีแล้ว ถ้าคุณแม่ของใครยังไม่
ทำทาน ยังไม่รักษาศีล ยังไม่นั่งสมาธิ ก็ต้อง
พยายามที่จะทำให้ท่านรักในการทำทาน รักษาศีล
และนั่งสมาธิ จนกระทั่งท่านเข้าถึงพระธรรมกาย
ในตัวได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ใช่ลูกแก้วอีกเหมือนกัน
เพราะฉะนั้น ต่างคนต่างพิจารณาดูใจของ
ตัวเองก็แล้วกัน ว่าเป็นแม่แก้ว หรือว่าเป็นลูกแก้ว
กันหรือยัง