การฟื้นฟูวัดและการช่วยเหลือชาวบ้านหลังน้ำท่วม วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2548 หน้า 37
หน้าที่ 37 / 108

สรุปเนื้อหา

เนื้อเรื่องเล่าถึงประสบการณ์ของผู้เขียนในการช่วยฟื้นฟูวัดและสนับสนุนชาวบ้านในขณะที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดศรีสะเกษ หลังจากที่มีข่าวเกี่ยวกับการทำลายข้าวของวัด ซึ่งได้รับการแจ้งจากชาวบ้านว่าเป็นข่าวเท็จ ผู้เขียนและสามีได้เข้ามาช่วยงานที่วัดและเป็นผู้ดูแลช่วยเหลือชาวบ้านในช่วงวิกฤตน้ำท่วมอย่างเต็มที่ โดยใช้จวนผู้ว่าฯเป็นฐานบัญชาการในการช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้กับชาวบ้านทั้งในด้านการศึกษาและการบูรณะวัดด้วย.

หัวข้อประเด็น

-การฟื้นฟูวัด
-การช่วยเหลือชาวบ้านในภัยน้ำท่วม
-ความสัมพันธ์ระหว่างวัดและชุมชน
-การจัดกิจกรรมให้ชุมชน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

มีการซ่องสุมกำลัง มีโน่นมีนี่อย่างที่เขาลงข่าวกัน โครมๆ จริงรึเปล่า แต่พอมาสำรวจทุกซอกทุกมุม แล้ว ก็ไม่เห็นจะมีอะไร ใต้โบสถ์มีแต่กระเบื้องปู พื้นที่เก็บไว้ซ่อมพื้น จากนั้นก็มาขอดูเรื่องกฎหมายการเช่า พบ ว่าวัดก็ปฏิบัติอย่างถูกต้อง ได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ เช่านาทราบว่า จะเลิกสัญญาเช่า ซึ่งวัดก็ต้องรอถึง ๓ ปี พอสืบไปก็รู้ว่าชาวบ้านได้ถูกจ้างวานและถูก ยุแยงให้เข้ามาทำลายข้าวของวัด ทุบพระ เผาวัด ก่อเรื่องครึกโครม แต่วัดกลับถูกกล่าวหาว่ารังแก ชาวบ้าน ซึ่งสามีเองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรม เอาเลย เพราะสามีและเราเองก็เห็นกับตาเลยว่า พวกชาวบ้านที่ถูกยุยงพวกนั้น แห่กันมารื้อถอน สระบัวในวัด มาจับปลาปิ้งกินแกล้มเหล้าในวัด ด่าพระ โดยที่พระท่านก็ไม่ได้ทำอะไร สามีจึงได้ ไปแจ้งนักข่าวให้มาดูให้เห็นกับตา จนหนังสือพิมพ์ โวยว่า ทำไมคุณเป็นนายอำเภอ ทำไมนายอำเภอ ไม่จับคนพวกนี้ มีเรื่องทำนองนี้วุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ซึ่งในฐานะที่สามีเราเป็นผู้ดูแลท้องที่ดำเนินการ ด้านความเรียบร้อยโดยตรง เลยรู้หมดทุกอย่างว่า อะไรเป็นอะไร ยิ่งเล่าก็ยิ่งสงสารวัด ที่โดนเข้าใจ ผิดและโดนลงข่าวจนเสียหายได้ถึงขนาดนี้... ตอนนั้นเราก็มาวัดทุกวัน เพราะย้ายมา ทำงานที่สำนักงานประถมศึกษาคลองหลวง จึงได้ เข้ามาช่วยทำงานวัดทุกอย่าง มาทุกวันเลย อะไร เป็นบุญทำหมด ผลักดันให้ข้าราชการครู ผู้ อำนวยการโรงเรียน อาจารย์ใหญ่ จัดให้เขามา อบรมกันที่วัด เราทำหน้าที่เหมือนเจ้าของวัด มา จัดดอกไม้ เย็บผ้าขี้ริ้วเป็นพันๆ ผืน จัดอัลบั้มให้ เจ้าภาพเองกับมือ เรียกได้ว่าทำทุกอย่าง จน หลายคนนึกว่าเราเป็นเจ้าหน้าที่วัดจริงๆ ไปแล้ว หลังจากนั้นสามีมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ตามคำอวยพรของพระเดช พระคุณหลวงพ่อจนได้มาเป็นผู้ว่าฯจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเราก็ต้องย้ายตามไปช่วยสามี แต่ก็ไม่เคยทิ้งวัด อีกทั้งพอย้ายไป ก็กลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักใน การฟื้นฟูวัดสาขาของวัดพระธรรมกายคือวัดเมืองคง จัดให้มีกฐินผ้าป่า บูรณะวัด ทั้งอาคาร สถานที่ เปิดโรงเรียนปริยัติ จัดให้มีการบวชสามเณรเป็นปี แรกถึง ๒๐๐ รูป จัดบิณฑบาต ชวนชาวบ้านให้ เข้าวัดกันยกใหญ่ พอเราย้ายมาอยู่ที่ศรีสะเกษ ได้สักระยะ เราเจอศึกหนักมาก คือพายุดีเปรสชั่นเกม เข้า ฝนตกติดต่อกัน ๔ วัน ๔ คืน ถล่มทั้งจังหวัดจนน้ำ ท่วมหนักพื้นที่ทั้ง ๙๐% ถูกท่วมหมด วัวควาย หมู เป็ด ต้องช่วยกันขนย้ายกันจ้าละหวั่นทั้งวันทั้งคืน ตอนนั้นต้องใช้จวนผู้ว่าฯเป็นกองบัญชาการทุกอย่าง และเราก็ได้มาเป็นแม่งานหลักในการช่วยเหลือ ชาวบ้านในครั้งนี้ ชาวบ้านที่นั่นน่าสงสารมาก น้ำท่วมหนัก จนไม่มีบ้านจะอยู่ ทุกคนต้องหนีน้ำอลหม่าน อพยพไปอยู่บนหลังคา บนต้นไม้ เราต้องส่ง เฮลิคอปเตอร์ ส่งเรือไปกู้ ท่ามกลางความมืดสนิท เพราะไฟฟ้าถูกตัด เรามองอะไรกันไม่เห็นเลย ชาวบ้านร้องกระจองอแง บางคนเหมือนเสียสติไป อยู่ไห๖) ๓๕
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More