การตั้งเป้าหมายเพื่อการพัฒนาตนเอง วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2548 หน้า 56
หน้าที่ 56 / 108

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เสนอแนวทางในการตั้งเป้าหมายเพื่อพัฒนาตนเอง โดยเน้นการสร้างความรู้ความสามารถในการเลี้ยงดูครอบครัวและการป้องกันอบายมุขที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต สิ่งสำคัญคือการเป็นต้นแบบที่ดี และการรักษาวินัยในการทำงาน พร้อมทั้งการเข้าวัดปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าใจธรรมะและกระตุ้นให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม.

หัวข้อประเด็น

-การตั้งเป้าหมาย
-การพัฒนาตนเอง
-อบายมุข
-การทำงานอย่างมีวินัย
-พระธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

? หลวงพ่อตอบปัญหา พระภาวนาวิริยคุณ เสียทีเถอะ เพราะมันไม่จีรังยั่งยืนหรอก ที่ถูกนั้นต้องตั้งเป้าหมายว่าจะมีความรู้ มีความสามารถ ขนาดนั้นขนาดนี้ จะได้เลี้ยงตัวเอง เลี้ยงพ่อ เลี้ยงแม่ เลี้ยงลูก เลี้ยงภรรยา หรือว่า เลี้ยงสามีได้ และต้องเลี้ยงได้ในทางที่ชอบด้วย การตั้งเป้าหมายในทางที่ถูกที่ควรอย่างนี้ จะช่วยให้คนของเราเกิดความกระตือรือร้น อร้นขึ้นมา ไม่ทำงานกันอย่างเช้าชามเย็นชาม เช้าช้อนเย็นช้อน แต่ว่าเป้าหมายเหล่านี้จะพินาศสิ้นไป ถ้ามี อบายมุขเข้ามาเกี่ยวข้อง และอบายมุขที่อยู่ใกล้ตัวลูกหลานของเรา หรือคนของเราคือเจ้าเพื่อนชั่วที่คอยจะพาไปเข้าบาร์ เข้าคลับ พาไปเล่นการพนัน พาไปเที่ยวกลางคืน เพื่อนชั่วพวกนี้ อย่าให้เข้ามาใกล้เด็ดขาด แต่ว่ามีเพื่อนชั่วประเภทหนึ่ง ที่คอยจ้อง ทำลาย จนกระทั่งเข้าไปถึงห้องนอนของเรา ได้แก่ สื่อที่ไม่มีความรับผิดชอบ สื่อที่เกี่ยวกับอบายมุข สื่อที่เกี่ยวกับการฟุ้งเฟ้อ และเจ้านี่แหละ คือเพื่อน ชั่วตัวร้ายที่สุด หากไม่กำจัดสิ่งเหล่านี้ออกไปให้สิ้นแผ่นดิน ไทย ลูกหลานไทยของเรา แม้ปัจจุบันนี้ก็ตาม ต่อไปในภายภาคหน้าก็ตาม มโนปณิธาน หรือเป้า หมายชีวิตของเขา ที่จะเป็นคนเก่งและดีของโลก ก็จะหมดไป เมื่อความคิดที่จะเป็นคนเก่งและดีของโลก หมดไป เราก็จะได้แต่คนประเภทเช้าชามเย็นชาม เช้าช้อนเย็นช้อนเกิดขึ้นมาแทน เพราะฉะนั้น ในฐานะที่คุณมองเห็นโทษภัย และมีความคิดที่จะแก้ไข เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน การแก้ไขในระดับชาตินั้น วางเอาไว้ก่อน แล้วมา เริ่มที่ทำงานกับที่บ้านของเราดีกว่า โดยการทำตัว ของคุณโยมเองให้เป็นมาตรฐานที่ดีเสียก่อน ยกตัวอย่าง ทำงานก็ตรงเวลา อยู่ในกฎ อยู่ในระเบียบ อยู่ในวินัย ให้เป็นต้นแบบที่ดีของ เพื่อนร่วมงาน ของลูกน้อย ผู้ใต้บังคับบัญชา จากนั้น ความรู้ ความสามารถต่างๆ ทาง โลก ในด้านวิชาการ คุณโยมก็ต้องพัฒนาตัวเอง ให้สมกับตำแหน่ง ให้สมกับฐานะ ที่จะต้องไต่เต้า ขึ้นไป ตามลำดับอายุราชการ ในเวลาเดียวกัน การเข้าวัดปฏิบัติธรรมก็ อย่าทิ้ง เพราะว่าเมื่อเราเข้าวัดปฏิบัติธรรม เราจะ ฉลาดในเรื่องของธรรมะ จะมีธรรมะที่ลึกซึ้งมา ฝากลูกน้อง มาฝากเพื่อนร่วมงาน รวมกระทั่ง ผู้บังคับบัญชา เมื่อทำอย่างนี้ ก็จะเป็นที่ยอมรับของทุกคน ในที่ทำงาน จากนั้นก็นำเขาเข้าวัดปฏิบัติธรรม ซึ่ง เป็นการนำเขาเหล่านั้นออกมาจากอบายมุข และ เป็นการเพิ่มความเคร่งครัดทั้งวินัยทางโลก ทั้ง วินัยทางธรรมให้กับเขาด้วย การกระทำอย่างนี้นี่เอง ที่จะช่วยแก้ไขเรื่อง การทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม หรือว่าทำงาน แบบเช้าช้อนเย็นช้อนให้หมดไป แล้วยังเป็นการ ปลูกฝังให้คนไทยทำงานแบบเอาจริงเอาจังอีกด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าอยากจะให้วิถีชีวิตการ ทํางานแบบไม่เอาไหน หมดไปจากบ้านเมืองไทย ของเรา ก็ต้องเริ่มต้นที่ตัวคุณโยมเองเป็นคนแรกนะ อยู่ใน ๕๔ เคจน์คุณยายอาจารย์มหาร้านอุปกร
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More